ไม่พบผลการค้นหา
คณะตุลาการศาล รธน. นัดประชุมวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. เตรียมพิจารณาจะรับคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติไว้วินิจฉัยหรือไม่ หลัง กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งยุบพรรค ด้านทนาย ทษช. ยื่นศาล รธน. ขอส่งสำเนาคำร้องเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าว ระบุว่า เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับมอบอำนาจจาก กกต.ให้มายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้ในทางธุรการและอยู่ระหว่างการตรวจคำร้องโดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะเสนอคำร้องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ. 2562 เวลา 13.30 น. ต่อไป

ขณะที่ นายสุรชัย ชินชัย คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ในฐานะผู้ได้รับอำนาจจากหัวหน้า ทษช. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี กกต. มีมติยุบ ทษช. โดยในชั้นของ กกต.ไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่คณะกรรมการกำหนด ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 93 เพราะคณะกรรมการยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการไต่สวนตามข้อกล่าวหา ตามมาตรา 92 และ 93 และ กกต.ไม่ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. พ.ศ. 2560 ในหมวด 2 ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนและการดำเนินคดี ที่ กกต. หรือเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานต้องให้โอกาส ทษช. ทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน เพื่อให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้แสดงพยานหลักฐานภายในเวลาที่กำหนด รวมทั้งมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลที่ไว้ใจเข้ารับฟังการไต่สวนได้ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การดำเนินการของคณะกรรมการ กกต.ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐ ในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า กกต.ได้พิจารณาและมีมติในการกล่าวหาพรรคไทยรักษาชาติ และนำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรค ถือเป็นการกระทำในฐานะหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในทางปกครอง อันมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิและหน้าที่ของพรรคไทยรักษาชาติ กกต. จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้พรรคไทยรักษาชาติในฐานะคู่กรณีได้โต้แย้ง คัดค้าน และแสดงหลักฐานภายในเวลาอันสมควร แต่ปรากฏว่า กกต.มีมติและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. พ.ศ.2560 และวิธีการและวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เป็นเหตุให้พรรคไทยรักษาชาติผู้ถูกกล่าวหา ไม่มีโอกาสได้แก้ข้อกล่าวหาและชี้แจงแสดงพยานหลักฐาน ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อันเป็นการกระทบต่อสถานภาพสิทธิของพรรคไทยรักษาชาติในฐานะผู้ถูกกล่าวหา

นายสุรชัย กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของ กกต.ไว้พิจารณาขอให้ศาลโปรดส่งสำเนาคำร้องให้แก่พรรคไทยรักษาชาติเพื่อให้ได้มีโอกาสโต้แย้ง ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รวมทั้งแสดงพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุเพื่อประกอบการพิจารณาและวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยขอให้ศาลส่งคำร้องไปยังภูมิลำเนาของพรรคไทยรักษาชาติ


ศาล รธน ทษช ed.jpg


ข่าวที่เกี่ยวข้อง