ไม่พบผลการค้นหา
คดีบ้านพักสวัสดิการทหารไม่คืบ! ‘ปดิพัทธ์’ นำผู้เสียหายยื่นหลักฐานต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ หวังเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้ความเป็นธรรม หลังเคยยื่นสำนักนายกฯ แต่เรื่องเงียบ

วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้อภิปรายตามมาตรา 152 ในสภาชุดที่ผ่านมา กรณีการทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งนำไปสู่เหตุกราดยิงโคราชเมื่อปี 2563 พร้อมด้วยคุณก้อย (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย และทนายความ เดินทางไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) เพื่อยื่นหลักฐานคดีทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร หลังจากเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เคยยื่นหลักฐานไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำท้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่เรื่องกลับเงียบ

ปดิพัทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จากการอภิปรายในวันนั้น พล.อ. ประยุทธ์ แจ้งว่าหากมีหลักฐานก็ให้นำไปยื่นแล้วจะดำเนินการ แต่ผ่านมาถึงวันนี้ กลับไม่มีความเคลื่อนไหวหรือการดำเนินการใด ผนวกกับช่วงที่ผ่านมาคุณก้อยต้องเผชิญกับความอยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นศาลทหาร การถูกกดดันในรูปแบบต่างๆ วันนี้จึงเดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพื่อยื่นหลักฐานและเรียกร้องความยุติธรรมในอีกช่องทางหนึ่ง

นี่เป็นเพียงหนึ่งในผู้ประกอบการที่ถูกกระทำในลักษณะนี้ ทำให้เห็นช่องโหว่ในกระบวนการยุติธรรมว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะทหารกระทำความผิดและมีหลักฐานชัดเจน ตั้งกรรมการสอบกันเอง ทำให้หลายอย่างอยู่ในความคลุมเครือ ประชาชนคนหนึ่งจะดำเนินคดีเป็นเรื่องลำบากมาก ไม่ได้รับความยุติธรรม ทำให้เห็นความจำเป็นของการปฏิรูปกองทัพ ร่างกฎหมายต่างๆ ที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ จะเป็นส่วนหนึ่งทำให้กลไกเหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้น

ด้านทนายความให้รายละเอียดของคดีว่า ครั้งนี้ได้ยื่นฟ้องข้าราชการที่เป็นทหารในกรมสวัสดิการทหารบกจำนวน 23 ราย และพลเรือนอีก 2 ราย ด้วยข้อหาเจ้าพนักงานเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งข้าราชการที่ว่านั้นมีตั้งแต่ยศระดับนายพลจนถึงเจ้าพนักงาน โดยมีการกระทำความผิดถึง 200 ครั้ง เป็นมูลค่าความเสียหายถึง 44 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการร้องเรียนผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่เรื่องไม่คืบ จึงเดินทางมาฟ้องร้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ

ขณะที่คุณก้อย ผู้เสียหาย กล่าวขอบคุณปดิพัทธ์ เนื่องจากต้องต่อสู้เรื่องนี้เพียงคนเดียวมาตั้งแต่ปี 2563 โดยเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นการต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลและผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ตนไม่ได้เหมารวมทั้งกองทัพ เพราะคนที่ทำมีแค่ทหารบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่านั้นถึงปกป้องคนกลุ่มนี้ จึงหวังว่าศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม

"ขอบคุณ ส.ส. ซึ่งเป็นผู้แทนเพื่อประชาชน เราต่อสู้ตัวคนเดียวก่อนเกิดเหตุกราดยิงปี 2563 ด้วยซ้ำ ไปมาทุกช่องทางแล้ว แต่ทั้งนี้ก็เป็นผลดี หลังจาก ส.ส.ปดิพัทธ์อภิปราย มีทนายเข้ามาช่วยเหลือ ครั้งนี้หวังว่าศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย” ผู้เสียหายกล่าว