วันที่ 26 เม.ย.66 ลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย เขต 2 (ปทุมวัน, ราชเทวี,สาทร) หมายเลข 5 กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์แบบเรียน "ภาษาพาที" ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า เนื้อหาในแบบเรียนเป็นสิ่งสำคัญในการปลูกฝังแนวคิดและค่านิยมสำหรับเยาวชนผู้เป็นอนาคตของประเทศ ซึ่งจะต้องมีความสอดคล้องให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก อยู่บนพื้นฐานของความเป็นเหตุเป็นผล อย่างไรก็ตาม ตนขอขอบคุณผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และมอบหมายให้ สพฐ.ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแบบเรียนดังกล่าวแล้ว

ลีลาวดี กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการศึกษาทันสมัย ทั้งสิ่งที่อยู่ในตำราและนอกตำรา โดยสิ่งที่อยู่ในตำราแบบเรียนนั้นจะต้องเป็นแบบเรียนแห่งอนาคตและมีคุณภาพ ควบคู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยไม่มีความเหลื่อมล้ำ เพื่อนำไปสู่การปั้นทรัพยากรบุคคลที่สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติต่อไปได้ ตามแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการ 5 แนวทาง ดังนี้คือ

1.Learn to Earn Platform ยังไม่จบก็รวยได้ แบบฉบับพรรคเพื่อไทย ที่นักเรียนต้องเรียนอย่างมีความสุข ค้นพบความชอบตัวเอง เพื่อสร้างรายได้ใหม่จาก Soft power 

2.การเข้าถึงความรู้ที่ทันสมัยด้วย Tablet per child/ teacher (แท็บเล็ต) ทั้งครูและนักเรียน แบ่งปันสื่อแบบเรียลไทม์

3.จัดงบประมาณสนับสนุนให้ครูและนักเรียนผลิตสื่อที่ตอบโจทย์บริบทชุมชน

4.ปราบคอร์รัปชั่นในวงการแบบเรียน

และ 5.ต้องจบปัญหาถึงรากเหง้าการศึกษาที่หมักหมมมานาน อย่างเรื่องภาระงานครูและเรื่องการกระจายอำนาจทางการศึกษา เป็นต้น

“ในฐานะอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเคยทำงานในวงการการศึกษาไทย มองว่า 5 แนวทางนี้จะสามารถยกระดับการเรียนการสอนของไทยให้มีคุณภาพ มีความทันสมัย และตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลก ขอให้เชื่อมั่นว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยออกแบบมาอย่างเป็นระบบโดยมืออาชีพ สอดคล้องกันทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและการศึกษา นักเรียนจะต้องมีรายได้ เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ที่สำคัญคือ เพื่อไทยไม่ได้มองนักเรียนว่าเป็นหุ่นยนต์ที่จะโปรแกรมความคิดให้เขาคิดตามผู้ใหญ่ในยุคก่อน” ลีลาวดี กล่าว