ไม่พบผลการค้นหา
นักกิจกรรมลำปางเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวคดี 112 ด้านตำรวจแจ้งสาเหตุที่ต้องดำเนินคดีเนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ทั้ง 5 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดป้ายผ้าที่มีข้อความว่า ‘งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID 19' แต่ไม่มีการชี้แจงว่าผิดกฎหมายอย่างไร

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลา 10.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง นักศึกษาและประชาชนในจังหวัดลำปางรวม 5 ราย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามมาตรา 112 เหตุจากการแขวนป้ายผ้าที่มีข้อความ “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19” บริเวณสะพานรัษฎาภิเศก เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 ทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยตำรวจยังมีขอเก็บและตรวจ DNA ของผู้ถูกกล่าวหาทั้งห้าด้วย

สำหรับผู้ถูกออกหมายเรียก 5 ราย ได้แก่ 1. พินิจ ทองคำ นักศึกษาวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และสมาชิกกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน, 2. วรรณพร หุตะโกวิท บัณฑิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสมาชิกกลุ่ม NU-Movement, 3. ภัทรกันย์ แข่งขัน นักศึกษาคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 4. ยุพดี กูลกิจตานนท์ แม่ค้าในจังหวัดลำปาง และ 5. “หวาน” (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง

การเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งแผงรั้วเหล็กรอบบริเวณอาคารสถานีตำรวจ และตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิสำหรับคนที่ผ่านเข้าออก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบราว 50 นาย และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกราว 20 นายกระจายตัวอยู่โดยรอบ

ก่อนเข้าไปยังห้องสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการจัดสอบประวัติส่วนตัว ที่อยู่ และถ่ายภาพผู้ที่เข้ามาในอาคาร และยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยติดตามประกบถ่ายภาพกลุ่มผู้ถูกออกหมายเรียก ทั้งในขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหายังมีการตั้งกล้องบันทึกวีดีโอไว้ระหว่างการสอบสวนโดยตลอด

คณะพนักงานสอบสวนซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่งของตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นำโดย พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม รองผู้กำกับสอบสวนสภ.เมืองลำปาง ได้เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อทั้ง 5 คน โดยได้มีการแยกห้องในการแจ้งข้อหาและสอบปากคำเป็นรายบุคคล

ข้อกล่าวหาระบุว่า ร.ต.อ.วิเชียร ดอนชาไพร ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เวรสืบสวน ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 63 เวลา 9.00 น. ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 63 เวลา 9.00 น. ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคง และข้อมูลร้องเรียนทั่วไปผ่านเว็บไซต์และเพจต่างๆ พบว่าเพจของกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน ได้โพสต์ภาพและข้อความกรณีมีการแขวนป้ายผ้าไว้ที่ราวสะพาน บริเวณกลางสะพานรัษฎาภิเศก พร้อมระบุข้อความว่า “เวลานี้ แกนนำกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน ขึ้นป้าย ‘งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID 19’ บริเวณสะพานรัษฎาภิเศก จังหวัดลำปาง”

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองลำปาง, เจ้าหน้าที่สายตรวจเวร จึงไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ จึงพบว่ามีการติดป้ายที่เขียนข้อความดังกล่าว ไว้บริเวณสะพานรัษฎาภิเษก จึงได้ร่วมกันตรวจยึดป้ายดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองลำปาง และมีการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดครั้งนี้ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ มาตรา 10 เรื่องการโฆษณาด้วยการปิดแผ่นประกาศในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาดังกล่าวต่อทั้งห้าคน โดยอ้างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุของช่วงวันเกิดเหตุ ทำให้เชื่อว่าทั้งห้าคนเกี่ยวข้องกับการติดป้ายดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาทั้งห้าคนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป

พนักงานสอบสวนยังระบุว่าคดีนี้จำเป็นต้องมีการเก็บพยานหลักฐาน DNA โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่มารอไว้แล้ว จึงขอเก็บหลักฐานดังกล่าวจากผู้ถูกกล่าวหาทั้งห้าคน โดยทางตำรวจระบุว่าหากไม่ยินยอม อาจเป็นผลร้ายต่อผู้ถูกกล่าวหาเอง อีกทั้งยังกล่าวเสริมว่าหากเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เมื่อได้ปรึกษากันแล้ว ทางกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาจึงยินยอมให้มีการตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (สพฐ.5) โดยการเก็บตัวอย่าง DNA จากกระพุ้งแก้ม

นอกจากนั้น พนักงานสอบสวนได้ให้ทั้งหมดพิมพ์ลายนิ้วมือสำหรับตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และให้ปล่อยตัวไปโดยไม่ได้มีการควบคุมตัวไว้ โดยนัดหมายมารายงานตัวกับทางตำรวจต่อไปในวันที่ 18 ก.พ. 64

กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. เนื่องจากมีการแยกห้องสอบสวน ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละราวเร็วช้าไม่เท่ากัน

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีข้อสังเกตว่าในการแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการระบุว่าข้อความในป้าย ‘งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19’ เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างไร