ไม่พบผลการค้นหา
'พลังประชารัฐ' ปราศรัยสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด เปิดคลิป "ประยุทธ์" เผยหัวใจดวงนี้ให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นทหารต้องดูแลคนทั้งประเทศ วันนี้ปรับตัว อยากให้ทุกคนเดินไปข้าง ไปด้วยกัน หลังจากเชื่อมั่นตนมาแล้ว 5 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชารัฐส่งคลิปให้ประชาชนที่ร่วมรับฟังการปราศัยของพรรคพลังประชารัฐ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด ย่านฝั่งธน โดยระบุว่า "สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ผม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ หัวใจดวงนี้ของผมนั้นให้กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มานานแล้วตั้งแต่เกิดมาแล้ว ตั้งแต่เป็นทหารมาต้องดูแลคนทั้งประเทศ เป็นงานที่ยากแต่ผมไม่เคยท้อแท้ 

"เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมท้อแท้นั่นแสดงว่าเราจะไม่เดินไปข้างหน้า ไม่ได้นะครับ สัญชาตญาณความเป็นทหารของผมยังมีอยู่ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็ต้องปรับตัวของผมเองให้ทำงานกับคนทุกคนได้ ไม่ใช่ว่าเราจะเลือกข้างใครก็ได้อะไรก็ได้มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะวันนี้มันเป็นรัฐบาลที่เรามาจากการเลือกตั้ง มาจากคนหลายพวกหลายฝ่าย แต่ทุกคน ถ้าเราเลือกคนดีเข้ามาในสภาเราก็จะได้รัฐบาล ได้ ครม.ที่มีประสิทธิภาพ ทำเพื่อประชาชน ทำประโยชน์เพื่อประชาชนไม่ใช่ผลประโยชน์ 

"พร้อมเดินไปกับผมหรือยัง พร้อมจะก้าวไปข้างหน้ากับผมหรือยัง

ประยุทธ์-คลิป-พลังประชารัฐ-สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ

"ถ้าเราก้าวไปข้างหน้าบ้างก้าวถอยหลังบ้าง แล้วก็เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสะเปะสะปะ มันก็ไปถึงที่หมายช้าหน่อย เราต้องเดินหน้าไปด้วยความเข้าใจร่วมกัน แล้วเข้าใจไหมว่า เราต้องทำอย่างไรต่อไป เราจะต้องทำต่อจากของเดิมที่มานี่แหละ หลายอย่างต้องเริ่มใหม่ หลายอย่างต้องเพิ่มขึ้น แต่ต้องช่วยกันด้วยสองมือ 68 ล้านหัวใจเดินไปด้วยกันข้างหน้า ไม่ร่วมมือ มันก็ไม่สำเร็จ ก็อยากให้ทุกคนเชื่อมั่น 

"ในเมื่อทุกคนเชื่อมั่นผมมา 5 ปีแล้ว 5 ปีนะไม่ใช่สั้นๆ เป็น 5 ปีแห่งความยากลำบากในการแก้ปัญหาแต่มันมีอนาคต เรากำลังทำเพื่ออนาคต อนาคตมันต้องทำวันนี้ ไม่ใช่ไปหวังเอาข้างหน้าอย่างเดียวและมันต้องต่อยอดจากอดีตที่เราทำมาแล้วมันถึงจะเดินหน้าต่อไป วันนี้โลกมันมาแบบนี้ วันนี้ประเทศไทยเจริญเติบโตมาแบบนี้ อะไรดีผมก็ทำต่อ อะไรที่ไม่ดีผมก็ไม่ทำ 

"โอเคนะครับร่วมมือกับเรานะครับ ยิ้ม ยิ้มหวานๆ ให้กัน เราต้องไม่ทะเลาะกันอีก ฉีกยิ้มกว้างๆ ผมเองก็ยิ้มมากขึ้นในตอนนี้ ผมเห็นในความสำเร็จบ้างเห็นความร่วมมือเห็นรอยยิ้มของประชาชนมากๆ ผมก็ยิ้มออก เราอย่าไปทำหน้าบึ้งตึงใส่กันอีกเลย ผมต้องการความรัก ความสามัคคีไปด้วยกัน ขอความสุขขอความรักขอความสามัคคีกลับมาเถอะครับ ให้ประเทศไทย ให้ตัวเรา ให้ครอบครัวเรา ให้สังคมเรา เกิดความอบอุ่นไปในวันข้างหน้า นั่นแหละครับเขาเรียกว่าอนาคต 

"เห็นด้วยกับผมไหม เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน พอใจหรือไม่ รอได้ไหม แบบบางเพลงเขาพูดว่ารักแล้วรอหน่อย รักแล้วรักนานๆ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ"

'อุตตม' ย้ำหมดเวลาสร้างวาทกรรม แบ่งขั้วการเมือง ถึงเวลานำเสนอนโยบาย

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ได้พบกัน พปชร.เป็นพรรคน้องใหม่อายุ 4 เดือน แต่ใจเราโตกว่ามาก พร้อมทำงานให้กับประชาชน ซึ่งเรามีชุดนโยบายที่จะตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ และพวกเราเป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักการเมืองมืออาชีพ วันนี้ประเทศอยู่ในจุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ในสิบปีที่ผ่านมาเห็นบ้านเมืองต้องหยุดชะงักงัน เห็นคนไทยต้องเสียเลือดเนื้อ เราเห็นมาหมดแล้ว พปชร.เปิดมาวันนี้ เพราะเรามีอุดมการณ์ร่วมกันว่า เราเสนอตัวมานำพาประเทศ มาทำงานร่วมกันก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้น ไม่กลับไปวังวนเดิม พปชร.ไม่ต้องพูดว่าปรองดอง เพราะเราไม่เคยทะเลาะกับใคร ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ก้าวข้ามไปสู่ความสงบสุขเลย 

วันนี้มีพรรคการเมืองอื่นออกมาติเตียนนโยบายของเรา แต่ยิงติ ยิ่งชอบ ทำให้เรามีโอกาสสื่อสารกับประชาชน ยืนยันว่าทำแล้ว ทำจริง ไม่มีปัญหาตามมาแน่นอน และวันนี้ถือเป็นเวลาสำคัญทุกคนต้องใคร่ครวญให้ดี เข้าโค้งสุดท้าย มีวาทกรรมเยอะแยะ แต่วันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสร้างวาทกรรมหรือแบ่งขั้วทางการเมือง เราเชื่อว่า เป็นเวลาที่จะต้องนำเสนอให้คนรู้ว่าพรรคการเมืองจะรับใช้ประชาชนอย่างไร ส่วนใครจะมาพูดเรื่องแบ่งขั้ว จับมือหรือไม่จับมือ ขอบอกว่าเหล่านั้นคือของปลอม ส่วนของจริงคือนโยบาย สิ่งที่นำมาเสนอให้ประชาชน 

ประยุทธ์-อุตตม-คลิป-พลังประชารัฐ-สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ

โดยก่อนที่ นายอุตมม จะลงจากเวที ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศตัวพร้อมมาอยู่กับพลังประชารัฐ และไม่ได้มาด้วยตัวเอง และส่งพวกผมมา แต่ขอส่งใจและเปิดใจผ่านคลิปวีดีโอ สร้างเสียงฮือฮาให้กับประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัยกันอย่างคึกคัก

ภายหลังเปิดคลิปวีดีโอเสร็จสิ้น นายอุตตม บอกว่า นี่คือสิ่งที่เรายืนยันให้ทุกคนเห็นว่า เราสืบทอดแน่นอน ไม่ใช่สืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่จะสืบทอดลุงตู่ ให้มีผู้แทนเข้าไปในสภา ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นเหมือนเดิม และวันนี้ขอโอกาสให้ผู้แทนของพรรค ได้รับใช้คนกรุงเทพฯ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่เคยมีใครมาแบ่งแยกออกจากกัน แต่หลายสิบปีที่ผ่านมา มีคนแบ่งแยกออกมาเป็นสีเหลืองสีแดง มีแต่ความทะเลาะเบาะแว้ง ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้คือประชาธิปไตยกลับไปอยู่ในมือประชาชน และต้องช่วยกันไม่ให้บ้านเมืองกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า จะไม่เอานายกรัฐมนตรีชื่อพลเอกประยุทธ์ ซึ่งทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ขณะนี้เขาบอยคอตนายกรัฐมนตรีชื่อพลเอกประยุทธ์ ทั้งที่ผลการเลือกตั้งยังไม่ออกมา นั่นหมายความว่า เขากำลังบอยคอตพลังประชารัฐที่เสนอพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในอดีตการเมืองมีพรรคของคนแดนไกล และมีพรรคสีฟ้าต่อสู้กันมาสิบกว่าปี ผลของการต่อสู้ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ วันนี้พลังประชารัฐอาสาสเป็นทางออกให้กับประเทศ เดินหน้าทำนโยบายพัฒนาประเทศ

พลังประชารัฐ-ประยุทธ์-สนามเฉลิมพระเกียรติบางมด-หาเสียง

พร้อมบอกอีกว่า ประเทศจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ถ้าไม่มีผู้นำที่จริงใจกับประชาชน พลังประชารัฐไม่มั่นใจว่าประเทศจะถึงทางตันอีกครั้งหรือไม่ แต่เราโชคดีที่ พลเอกประยุทธ์ ตัดสินใจเป็นผู้นำของประเทศอีกครั้ง ผู้นำที่จะฝ่าวิกฤติความขัดแย้ง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถมาพบกับประชาชนด้วยตัวเอง แต่ก็เอาหัวใจฝากผ่านคลิปมาให้หายคิดถึง

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า วันนี้ฝั่งธนฯ เปลี่ยนไปแล้ว เราไม่เอานักเลง ไม่เอาคนขี้โกง ส่งสัญญาณดังๆ นักการเมืองเก่าได้รู้ว่าคนฝั่งธนฯ จะเลือกคนรุ่นใหม่เป็นผู้แทน วันนี้ขอถามว่า อยากได้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าคนฝั่งธนฯ 9 เขต กลับไปชักชวนคนรู้จักแค่คนละ 10 คน จากหมื่นเสียง เป็นแสนเสียง จะทำให้ฝั่งธนฯ เราชนะถล่มทลาย วันนี้ขอสัญญาใจได้หรือไม่ว่าจะไม่ทิ้งกัน และดูแล พปชร.เหมือนคนในครอบครัว หากประชาชนดูแลพวกเรา พวกเราก็พร้อมดูแลคนฝั่งธนฯเหมือนกัน และขอเสียงดังๆให้ถึงทำเนียบรัฐบาล 

ซึ่งวันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แกนนำพรรค ไม่มีใครขึ้นปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายขึ้นค่าแรง 425 บาท และขึ้นเงินเดือน ป.ตรี 20,000 บาท หลังจาก พลเอกประยุทธ์ และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :