พชร ธรรมมล หรือ ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้เสนอแนวคิดที่จะพลิกวิกฤตเป็นโอกาศใน 4 ด้าน คือ โอกาสทางพลังงาน โอกาสทางอาหาร โอกาสทางธุรกิจดิจิทัล และ โอกาสทางอุตสาหกรรมสมัยใหม่ แต่แทนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะรับฟังและนำไปพิจารณาปฏิบัติ กลับให้ ธนกร บุญยังคงชนะ หรือ “แด๊ก เดอะบู่” ตามฉายาที่สื่อตั้งให้ ออกมาโต้แบบมั่วๆตามเดิม แถมยังพูดเหมือนไปดูถูกว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาดความรู้ขาดความสามารถที่จะเข้าใจ เพราะอ้างว่าเป็นเรื่องเก่าซ้ำๆ ซึ่งถ้าเป็นจริงทำไม พล.อ.ประยุทธ์ถึงไม่นำไปทำทั้งที่เป็นเรื่องดี และสามารถฟื้นเศรษฐกิจได้จริง ที่ พล.อ.ประยุทธ์คงคิดเองไม่ได้ แต่กลับยังไม่ได้ทำสักข้อทั้งที่บริหารมา 8 ปี ประเทศไทยจึงมีแต่เสื่อมถอยมาตลอด โดยล่าสุดอันดับความสามารถแข่งขันของประเทศไทยหล่นลง 5 อันดับมาอยู่ที่ 33 จากการจัดอันดับของ IMD ที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยชื่นชม
หากจำกันได้ พิชัยเป็นคนแรกที่แนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท มาเป็นปีแล้วเพราะคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้น แต่ พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าทำไม่ได้ และให้คนดาหน้าออกมาโต้เหมือนที่โต้ตอนนึ้ แต่ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องกลืนน้ำลายและลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทจริงๆ ตามที่นายพิชัยแนะนำ แต่กว่าจะทำก็ช้ามากแล้วแม้จะลดภาษีสรรพสามิตดีเซลแล้วราคาน้ำมันดีเซลก็ไม่ลดลง แถมราคาน้ำมันดีเซลยังเพิ่มขึ้น นี่แสดงถึงข้อจำกัดทางความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างชัดเจน ทั้งนี้อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ไปมองย้อนหลังทั้งเรื่อง ทฤษฎีกบต้ม ราคาน้ำมันเพิ่มสูง เงินเฟ้อพุ่ง ประเทศหนี้ล้นประชาชนหนี้ท่วม ดอกเบี้ยขาขึ้น เศรษฐกิจฟื้นไม่มีหนีไม่พ้น ฯลฯ ล้วนเป็นจริงตามที่ได้เตือนไว้แล้วทั้งหมด และพล.อ.ประยุทธ์ก็ส่งคนมาโต้แบบมั่วๆนี้ทั้งหมดสุดท้ายก็ต้องกลืนเลือดและกลืนน้ำลายตัวเองแบบไร้ความละอาย
นอกจากนี้ ธนกร หรือ “แด๊ก เดอะบู่” คงไม่ได้อ่านข้อมูลโดยละเอียดเลยไม่เข้าใจ มีหน้าที่โต้ตามโปรแกรมที่ป้อนไว้เท่านั้นโดยไม่ต้องใช้สมอง จึงไม่ได้ดูเลยว่าพิชัยไม่ได้พูดเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจเลย เป็นการแนะนำทางออกที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดไม่ได้เท่านั้น ในสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ตลอด 8 ปีนี้ไม่จำเป็นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะคนไทยรับรู้ความล้มเหลวของการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์เองได้โดยถ้วนหน้า ไม่ต้องมาตอกย้ำแล้ว และพรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะมีหมัดเด็ดในการน็อครัฐบาลแน่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
ขนาดผู้นำที่ฉลาดยังต้องขวนขวายหาความรู้ เปิดรับความเห็นเพื่อปรับปรุงการบริหารของตัวเอง โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงของโลกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผู้นำของไทยที่ขาดความรู้แต่ก็ยังดื้อรั้นและไม่เปิดรับความรู้และไม่เปิดรับความคิดเห็นทั้งที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องมาตลอด จึงเป็นผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวซ้ำซากอย่างที่เป็นอยู่ จนคนต้องเริ่มออกมาชุมนุมขับไล่กันอีกครั้งแล้ว