ไม่พบผลการค้นหา
OnlyFans ยอมถอยยกเลิกกฎที่ห้ามลงคอนเทนต์เนื้อหาทางเพศ หลังบรรดาครีเอเตอร์แห่เทยกเลิกใช้บริการแพลตฟอร์ม

OnlyFans (โอนลี่แฟน) แพลตฟอร์มผู้ให้บริการคอนเทนต์รูปแบบวิดีโอ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า จะระงับแผนการแบนคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาทางเพศ บนแพลตฟอร์มซึ่งจะมีผลวันที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว โดยบรรดาครีเอเตอร์ยังคงสามารถลงเนื้อหา 18+ ได้เช่นเดิม

จากข้อความบนทวิตเตอร์ของแพลตฟอร์มระบุว่า "OnlyFans ขอขอบคุณเสียงสะท้อนจากทุกคน เราขอรับประกันในการสนับสนุนชุมชนครีเอเตอร์ที่หลากหลาย และได้ระงับแผนการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จะมีผลตามแผนวันที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว เรายืนยันถึง "ผนวกรวมเข้าด้วยกัน" และเราจะเป็นบ้านให้กับเหล่าครีเอเตอร์ทุกคนต่อไป"

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดว่า OnlyFans อนุญาตให้มีคอนเทนต์แนว 18+ ในแพลตฟอร์มได้อย่างเปิดกว้างมากน้อยเพียงใด เนื่องจากในคำแถลงของบริษัทใช้คำว่า Suspended โดยบริษัทระบุว่าจะส่งอีเมลแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมแก่บรรดาครีเอเตอร์ในภายหลัง 

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ บริษัท Fenix International Limited ผู้พัฒนาและเจ้าของแพลตฟอร์มวิดีโอ OnlyFans ออกมาประกาว่า บริษัทเตรียมสั่งห้ามผู้ใช้งาน หรือ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ทุกราย โพสต์คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาลักษณะเกินขอบเขตอนาจาร เนื้อหาทางเพศ หรือ 18+ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเหตุผลด้านการลงทุนจากพาร์ทเนอร์ผู้ร่วมลงทุนหลายรายกดดัน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าเพราะเหตุด OnlyFans ยอมกลับลำปรับนโยบายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี่ที่ทางแพลตฟอร์มประกาศเตรียมใช้นโยบายแบนคอนเทนต์เนื้อหา 18+ แพลตฟอร์ม OnlyFans ได้ถูกบรรดาผู้ใช้งานและครีเอเตอร์แสดงความไม่พอใจและถูกวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะบรรดาครีเอเตอร์ผู้สร้างคอนเทนต์แนว 18+ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าครีเอเตอร์เหล่านี้ มีความสำคัญต่อ OnlyFans

อย่างมาก เพราะเป็นกลุ่มที่ช่วยให้ยอดการใช้บริการของ OnlyFans พุ่งขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในช่วงการระบาดใหญ่ที่ทั่วโลกต้องล็อกดาวน์ แต่ตัวเลขของผู้เข้าใช้งานในแพลตฟอร์มสูงขึ้นหลายเท่าตัว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OnlyFans ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอรูปแบบที่ต้องเสียเงินเพื่อเข้าชม กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

แม้ตอนนี้ OnlyFans จะยอมไม่แบนคอนเทนต์เนื้อหา 18+ แต่ยังคงต้องติดตามว่าบรรดาครีเอเตอร์และผู้ชม จะยังคงใช้บริการแพลตฟอร์มนี้ต่อไปหรือไม่ เนื่องจากครีเอเตอร์หลายรายที่ไม่มันใจในกฎระเบียบ เริ่มเปลี่ยนไปใช้บริการแพลตฟอร์มอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันแล้ว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ที่มา: TheGuardian , BBC