ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' เผยก่อนถกรับมือนักท่องเที่ยวจีน มั่นใจมาตรการเอาอยู่ ย้ำอย่าเทียบเคสนักท่องเที่ยวจีนหลบหนีในเกาหลีใต้ ลั่นนี่คือประเทศไทย พร้อมหารือค่าเหยียบแผ่นดินผันงบใช้ดูแลชาวต่างชาติในระบบสาธารณสุข

วันที่ 5 ม.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า การประชุมในวันนี้จะเป็นการหารือ และแจ้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทราบมาตรการในการรองรับสถานการณ์โดยมติที่ได้จะเป็นข้อกำหนดในการปฏิบัติ โดยจะต้องปฏิบัติกับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

อนุทิน กล่าวอีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนนั้น เราไม่ได้มีปัญหา และช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด ซึ่งตอนนี้จะใช้มาตรการที่มีอยู่แล้วเดิมให้มากที่สุด สิ่งที่ต้องมุ่งเน้นคือตัวเราเองต้องหุ้มเกราะให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยคนไทยทุกคนควรจะมีวัคซีน 4 เข็ม เพื่อลดความเสี่ยงในการป่วยหนักและเสียชีวิต นอกเหนือจากนั้นต้องใช้มาตรการเดิมคือ หากเข้าไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต้องใส่หน้ากากอนามัย และให้การบริการนักท่องเที่ยวตามหลักสากลทั่วไป 

เมื่อถามว่า การคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนต้องใช้ ATK หรือ RT-PCR อนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีเพราะเขามีวิธีการคัดกรองก่อนออกประเทศของเขาอยู่แล้ว และก่อนกลับไปเขาก็ต้องมี RT-PCR ภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งเราจะเตรียมในเรื่องของการให้บริการสถานที่ขึ้นทะเบียนกับทางสถานทูตจีนว่าโรงพยาบาลแห่งไหนที่สามารถตรวจหาเชื้อได้ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มามีประกันสุขภาพอยู่แล้ว รวมถึงค่าเหยียบแผ่นดินที่จะมีการหารือว่ามีผลบังคับใช้เมื่อไร ซึ่งค่าเหยียบแผ่นดินเปรียบเสมือนการทำประกันว่า ถ้าเกิดจะต้องให้การดูแลรักษานักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วยไม่ใช่เฉพาะโรคโควิด-19 อย่างเดียว มันจะได้มีงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตามในระบบสารสุขของประเทศไทยมีงบประมาณอยู่ก้อนหนึ่งที่จะดูแลคนต่างชาติที่มาในประเทศไทยซึ่งเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนหลบหนีระหว่างกักตัวในประเทศเกาหลีใต้ อนุทิน ตอบว่า อย่าเทียบกับประเทศอื่น เพราะที่นี่คือประเทศไทย ซึ่งอาจารย์แพทย์หลายท่านออกมาให้ความมั่นใจแล้ว ส่วนมีไอเดียที่จะให้วัคซีนฟรีกับคนต่างชาตินั้นยังไม่มี เพียงแต่ถ้าจะให้ความประสงค์ว่าอยากจะฉีดวัคซีนก็สามารถรับบริการทางการแพทย์ พร้อมย้ำว่า ไม่ฟรีแน่นอน เราอยากได้งบประมาณ ไม่ใช่แถมแหลกแจกสะบัด ส่วนราคาเท่าไหร่นั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของพนักงานกระทรวงสาธารณสุขต้องไปกำหนดค่าบริการ