ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า ตอนนี้เริ่มมีความกังวล หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขยับไปแตะหลักหมื่น แต่ขอย้ำว่าสถานการณ์อยู่ในจุดที่กระทรวงสาธารณสุขคาดเดาไว้แล้ว เนื่องจากเชื้อโอไมครอนนั้นติดง่าย แต่ความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อตัวอื่นเช่นกัน ยิ่งเมื่อคนไทยได้รับวัคซีน ตัวเลขการป่วยหนักและเสียชีวิต ก็ยิ่งลดลงไปอีก
ยกตัวอย่าง เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ประเทศไทย มียอดผู้ติดเชื้อรายวันที่ 3,500–4,000 คน แต่อัตราการเสียชีวิตก็เท่ากับปัจจุบัน ที่มียอดการติดเชื้อวันละ 10,000 คนเศษ โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้น ภาพรวมคือ ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนไปจนถึงกลุ่ม 608 (1. กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 2. กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน 3. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) ทางกระทรวงสาธารณสุข เข้าใจสถานการณ์ และเราได้พยายามควบคุมการระบาดอย่างเต็มความสามารถ
เมื่อถามว่า หลังจากยอดผู้ป่วยหนักลดลงจะมีการคลายล็อกเพิ่มเติมหรือไม่ อนุทิน ตอบว่า เท่าที่ทราบ ที่ประชุม ศบค.ยังไม่หารือเรื่องการปลดล็อก 100% อย่างที่เป็นข่าว เพราะวันนี้มียอดการติดเชื้ออยู่ เราต้องไม่ประมาท อย่างไรก็ตามประเทศไทยถือว่าควบคุมโรคได้ดี และมีประสิทธิภาพ ส่วนสำคัญเพราะเราฉีดวัคซีนได้ถึงเป้า และประชาชนให้ความร่วมมือ ต้องขอขอบคุณประชาชนเป็นอย่างยิ่งที่มาฉีดวัคซีน ซึ่งรัฐจัดหามาให้ไปจนถึงการยกการ์ด ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือ การทำหน้าที่ของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข นอกจากนั้น ประเทศยังมีการเตรียมพร้อมเรื่องการรักษาที่เท่าทันโรค ระบบการกักตัวที่บ้าน ช่วยให้เราสามารถจัดการกับสถานการณ์ได้ดี
“ผมเพิ่งได้หารือกับท่านทูตสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ท่านกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่นานาชาติเห็นชัดในการดำเนินการของไทย คือ เราให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรงไป ตรงมา ดังนั้น อย่ากังวลว่าเราจะปกปิดข้อมูล เพราะเราก็คาดหวังจะให้ประชาชนช่วยกับรัฐ ป้องกัน จัดการโรคระบาดเช่นกัน เราจึงเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อทำให้สังคมเกิดการตระหนักรู้ เข้าใจ รู้ทันเหตุการณ์ สำหรับเรื่องวัคซีน เราจัดหามาทันใช้ตามแผนที่วางไว้ที่ต้องหามามาก เพราะมีทั้งเข็ม 1 เข็ม 2 เข็มบูสเตอร์ การให้บริการเราคำนึงถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัย จะไม่มีเรื่องของวัคซีนด้อยประสิทธิภาพ เพราะค้างสต็อกแน่นอน” อนุทิน ระบุ