สืบเนื่องจากวานนี้ (8 ก.พ.) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการ พรรค พปชร.แถลงว่าที่ประชุม ส.ส.พรรค พปชร. รับทราบกรณีที่ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เตรียมเสนอญัตติด่วนต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อขอมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา210 (2) กรณีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันกษัติย์

ซึ่งในกรณีนี้ฝ่ายรัฐบาลได้เสนอให้ฝ่ายค้านแก้ไขญัตติดังกล่าวแล้ว แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่าจะไม่แก้ไขเพราะไม่ได้เป็นการกล่าวพาดพิงสถาบันตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นอภิปรายถึงการที่รัฐบาลกำลังทำให้สถาบันเสื่อมเสีย

อย่างไรก็ตาม ไพบูลย์ จะยื่นเรื่องให้ประธานสภาฯ เพื่อบรรจุในวาระการประชุมสภาฯต่อไป เมื่อมีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวพิจารณาจะต้องใช้เสียงข้างมากของสภาฯ เห็นชอบ เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องจะส่งผลให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ. นี้ อาจต้องเลื่อนออกไป

สำหรับเรื่องนี้บุคคลในฝั่งรัฐบาลทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย และวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้่ออกมาให้ความเห็นต่อการเตรียมยื่นญัตติดังกล่าวขอไพบูลย์ด้วย

พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องที่ยื่นไปเป็นเพราะเขากังวลว่าจะเป็นการนำสถาบันเข้ามายุ่งกับการเมือง แต่ไม่ทราบว่าจะยื่นทันหรือไม่ เรื่องนี้ไพบูลย์ ทำของเขาเอง ไม่ได้มาปรึกษา ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ดังนั้นให้ศาลรับธรรมนูญตีความจะดีกว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มองว่าการยื่นญัตติครั้งนี้ไม่ใช่การทำเพื่อคว่ำการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อาจจะต้องเลื่อนวันอภิปรายออกไป เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญดูเสียก่อน

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามพูดสื่อข่าวในกรณีนี้สั้นๆ ว่า ให้ไปถามไพบูลย์เอง แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เห็นว่าควรเลื่อนการอภิปรายออกไปหรือไม่ และจะถูกมองว่าเป็นการคว่ำการอภิปรายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบพร้อมส่ายหัว และกล่าวเพียงว่า “ผมพร้อมที่จะอภิปราย”

ด้านวิษณุ ระบุถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เพียงได้ยินมาบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร หรือใจความหรือเหตุผลอะไรที่เขาจะทักท้วงจึงตอบไม่ถูก แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่น่าจะทำให้สะดุด เมื่อถามว่าหากศาลรับเรื่องจะต้องหยุดไม่ให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ก็เอาไว้ก่อนศาลยังไม่ได้รับอย่าไปคิด ไปสมมติเลย

ส่วนวิรัช กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อล้มการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือต้องการทำให้การอภิปรายเลื่อนออกไป เพราะวันนี้ ยังไม่สามารถบรรจุญัตติเข้าสู่ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาได้ จึงไม่สามารถประชุมเพื่อลงมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการอภิปรายจะไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่เราก็ต้องส่งไปเพื่อย้ำว่า ญัตติของฝ่ายค้านไม่ถูกต้อง เป็นการป้องปรามว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่สมควร และมิบังควร ไม่ใช่เกมการเมืองแต่เป็นการยื่นตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงว่าเป็นญัตติที่ไม่ถูกต้อง ทั้งที่น่าจะแก้ไขตั้งแต่วันที่ทักท้วงไป ซึ่งการยื่นญัตติครั้งนี้ เริ่มจากหลายฝ่ายในพรรคที่มีการทักท้วง

เมื่อถามว่า การยื่นตีความญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ วิรัช ย้อนกลับว่า การเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นนี้ ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นหากมีการพูดพาดพิงสถาบัน เราก็จะทำหน้าที่ปกป้องส่วนนี้ให้ดีที่สุด โดยหวังว่าตอนอ่านญัตติฝ่ายค้านจะอ่านข้ามไป เพื่อความสงบสุขของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ