นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเฝ้าระวังและควบคุมสินค้าที่มีการโฆษณาหรือจำหน่ายในตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) ว่า ปัจจุบันมีผู้บริโภคจำนวนมากหันมาใช้บริการซื้อสินค้าผ่านตลาดออนไลน์มากถึง 45 ล้านคน ส่งผลให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแอปพลิเคชั่นเกิดขึ้นในประเทศไทยกว่า 30 แอปพลิเคชั่น/เว็บไซต์ ที่เป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ บางรายได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และสามารถชำระเงินได้หลากหลายช่องทางหลายระบบ ประกอบกับสินค้ามีราคาไม่แพง โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงทำให้การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กำหนดมาตรการในการควบคุมการจำหน่ายสินค้าบนอีคอมเมิร์ซให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมาเป็นอันดับแรก
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมอ. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล และคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า ได้กำหนดมาตรการควบคุมการจำหน่ายสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าจำนวน 115 รายการ ที่ สมอ. ควบคุม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยการตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาด และสินค้าที่จำหน่ายออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้ง 36 แอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ยอดนิยมของไทย เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น เป็นสินค้าที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน
เป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเฝ้าระวังและควบคุมสินค้าที่มีการโฆษณาหรือจำหน่ายในตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) ระหว่าง สมอ. และผู้ประกอบธุรกิจตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 11 ราย ในวันนี้ ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกันมากกว่า 80% ของตลาดออนไลน์ในประเทศไทย ได้แก่ Lazada TH, Shopee TH, JD Central, TV Direct Online, O Shopping, Konvy, Chilindo, True Shopping, PC Home, LNW mall, และ IT City เพื่อร่วมกันเฝ้าระวังมิให้มีการโฆษณาหรือจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานในตลาดออนไลน์ โดยมีกลไกการแจ้งเตือนสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและความรู้ระหว่างกันด้านการควบคุมสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน ตลอดจนจัดให้มีระบบหรือกลไกในการตรวจสอบร้านค้าออนไลน์บนตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีการแสดงข้อมูลสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำหรือนำเข้าอย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศ