ไม่พบผลการค้นหา
'ไพบูลย์' ย้อน 'โรม' เป็นใครถึงมาประกาศไม่จับมือ 'ประวิตร' โต้พรรคไหนเสนอแก้ 112 ก็ขอไม่ยุ่งด้วยเหมือนกัน เตือนถ้ายังไม่ถอยอาจจบแบบ 'ไทยรักษาชาติ' ปัดตอบจับมือ 'เพื่อไทย' ลั่นหลังเลือกตั้งใครอยากดีลให้โทรฯ มาหาเอง

วันที่ 18 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประกาศไม่จับกับพรรคพลังประชารัฐ หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าตนสามารถประสานได้ทุกฝ่าย 

ไพบูลย์ ระบุว่า สิ่งที่หัวหน้าพูด เป็นธรรมดาที่จะต้องเปิดกว้าง ใครที่จะพูดคุยกับหัวหน้าพรรคก็ยินดี แต่ในส่วนตัวสำหรับพรรคก้าวไกล ตราบใดที่มีนโยบายจะแก้ไขมาตรา 112 ไม่มีวันคุยด้วย และส่วนตัวเชื่อว่าในพรรคพลังประชารัฐส่วนใหญ่เห็นตรงกัน เรารับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ การที่ รังสิมันต์ ประกาศไม่จับมือกับพลังประชารัฐ ก็ถือว่าเป็นความเห็นของเขา แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง 

"ไปอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ดี เพราะผมเป็นคนยื่น ในกรณีเกี่ยวกับการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในคำวินิจฉัยนั้นของศาลรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนว่า ถ้าไปกระทำการใดๆ ก็ตาม อันอาจเป็นปฏิปักษ์ทำให้เสียหายต่อสถาบัน ก็จะมีปัญหาทั้งสิ้น ผมขอเตือนไว้ก่อน การที่จะไปแก้ไขมาตรา 112 นั้นความเห็นตน ในฐานะที่เป็นฝ่ายกฎหมายไม่ควรไปแตะอย่างยิ่ง แต่ถ้าจะทำจริงๆ อาจจะเห็นผมทำงานอะไรบางอย่างอีกครั้งหนึ่ง ฝากบอก รังสิมันต์ โรม ด้วยนะ" ไพบูลย์ กล่าว

ส่วนประเด็นที่ รังสิมันต์ ระบุว่าการลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ พล.อ.ประวิตร เพื่อไปแถลงนโยบาย เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และไม่ขอให้ราคานโยบายดังกล่าว ไพบูลย์ ย้อนถามว่า รังสิมันต์ เป็นใคร ความเห็นของคนแค่คนเดียว ไม่เห็นจะต้องไปสนใจ เป็น ส.ส.แล้วยังไง ตนยืนยันได้ว่าการทำงานของพรรคพลังประชารัฐ ยึดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมาย ต่างจากบางพรรคที่ไปเสนอแก้ไขมาตรา 112 

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้กับการจับมือกับพรรคเพื่อไทย ไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวชัดเจน หลังการเลือกตั้งพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ติดต่อมา แต่ไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร เสนอตัวไปพูดกับเขาเอง พรรคการเมืองไหนโทรฯ ไปหลังเลือกตั้ง พร้อมที่จะพูดคุยด้วยทั้งสิ้น 

เมื่อถามว่า แพทองธาร ชินวัตร ก็ให้สัมภาษณ์ไม่พร้อมจับมือกับพลังประชารัฐ ไพบูลย์ กล่าวว่า ก็ถูกแล้ว เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง ทุกพรรคเมื่อถึงเวลาก็ต้องแข่งขันกันในสนามเลือกตั้ง อย่าเพิ่งพูดว่าใครเป็นใคร หรือใครผูกมิตรกับใคร ไม่มีทั้งสิ้น แต่หลังจากการเลือกตั้งแล้วทุกพรรคการเมืองก็จะพูดคุยกัน ให้รอดู 

"พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้นำในการรวบรวมจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า ในบรรดาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด พล.อ.ประวิตร เป็นคนเดียวที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มากที่สุด ขอย้ำเลย" ไพบูลย์ กล่าว