เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 2565 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บรรยายในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 ในหัวข้อวิชา “บทบาทของภาครัฐ เอกชนและการเมือง ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” โดยช่วงเริ่มได้กล่าวแซวผู้ที่กล่าวรายงานและเรียกตำแหน่งตนผิดเป็น รมว.ศึกษาธิการ ว่า กลายเป็น รมว.ศึกษาธิการไปแล้ว ตำแหน่งยิ่งอยู่ยิ่งลด ลดตำแหน่งตนไปเรื่อย ทั้งนี้ตนยินดีที่มาเป็นประธานเปิดหลักสูตรการศึกษา วปอ.รุ่น 65 ซึ่งเป็นรุ่นน้องตน 15 รุ่น เพราะเรียนเมื่อปี 2550 สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นสถาบันด้านความมั่นคงสูงสุดของประเทศ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้ามากมาย ฉะนั้นท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปในเวลานี้และตลอดเวลา ดังนั้นบทบาทของทุกคนจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ แต่อย่าลืมว่าในทุกวิกฤตก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นดังนั้นไทยและมิตรประเทศต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา และในโอกาสนี้ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของไทย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ หลายคนกลัวว่า 20 ปีนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยหรือ แต่ถ้าไปดูในรายละเอียดทุก 5 ปีจะมีการเสริมและปรับเปลี่ยนใน 4 ช่วงนี้ ซึ่งเหมือนหลายหลายประเทศไม่เช่นนั้นจะไม่ทำอะไรเกิดขึ้นได้ พร้อมย้ำว่าถ้าไม่มีการวางไว้ก็จะจบและผลงานก็จะไม่ปรากฏออกมา 

"หลายคนบอกว่าวางไว้นาน เพื่อจะอยู่ในอำนาจนานหรือเปล่า ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น อะไรที่วางไว้มันก็ต้องสานต่อไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม ถ้าสังเกตดูช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลมีระยะเวลาการทำงานที่สั้น มันก็เลยไม่ต่อเนื่อง ฉะนั้นวันนี้รัฐบาลยืนยันว่าโครงการสำคัญที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติแล้วจะต้องทำให้สำเร็จต่อเนื่อง"

ทั้งนี้บทบาทของภาครัฐจะเป็นหน้าที่หลักในการรักษาอธิปไตยความเรียบร้อยของประเทศ กำหนดเป้าหมายและแผนทั้ง 3 ระดับ อาทิ วางโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการที่เหมาะสมเพียงพอ ไปพร้อมกับเพิ่มรายได้ของประเทศให้มากขึ้น ซึ่งการพัฒนาประเทศกำลังเดินไปจุดนั้นให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง โดย 8 ปีที่ผ่านมาเราพยามทำให้ดีที่สุดทั้งแก้ปัญหาเก่าและทำเรื่องใหม่ 

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า สวัสดิการในเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่ใช้คำว่าบัตรคนจน ซึ่งผู้มีรายได้น้อยรัฐต้องแยกว่าจะดูแลคนกลุ่มนี้อย่างไร เพื่อให้เขาอยู่รอด ฉะนั้นขอให้แยกออกจากกัน พร้อมชี้แจงอีกว่าหลายคนมองเป็นประชานิยม แต่ตนต้องการพุ่งเป้าว่าจะให้กับใครและใช้ทำอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นสิทธิของผู้ที่นำไปใช้ 

สิ่งสำคัญในวันนี้ภาคเอกชนสำคัญต้องปรับรูปแบบในการลงทุน พัฒนา และมีส่วนร่วมซึ่งกันและกัน พร้อมยืนยันว่า ตน จะทำทุกอย่างให้โปร่งใส สุจริตและเป็นธรรมให้มากที่สุด ตลอดเวลาวันที่ผ่านมามีการปรับแก้ปรับปรุงอุปสรรคกฎหมายต่างๆ 

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวกับนักศึกษา วปอ.รุ่น 65 ว่า การถกแถลงกันตนก็ทราบว่ามีการพบปะหลายหมู่หลายคณะ ตนได้รับรายงานเสมอ มีรูปส่งมาบ้าง ตอนนี้มีความสุขทุกคนก็ขอให้สุขอย่างนี้แต่ขอให้มีสาระมาเพิ่มด้วยแล้วกัน ตน รู้ว่าทุกคนตั้งใจไม่เช่นนั้นคงไม่อยากมา ซึ่งความรับผิดชอบต้องสำคัญที่สุด 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังเล่าให้นักเรียน วปอ.65 ฟังว่า นายกฯไม่ใช่คนดีที่สุดในโลก แต่เป็นคนช่างคิด คิดนู่นคิดนี่คิดไปเรื่อย อะไรทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็ทำเพราะถ้าเราหยุดคิดมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา หรือคิดเฉพาะความขัดแย้ง คิดว่าจะไปสู้เขาได้อย่างไรมันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ทุกอย่างเป็นเรื่องของประเทศชาติและประชาชน ตนก็ขอฝาก

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าภาครัฐมีหน้าที่รักษาอธิปไตยดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ วันนี้ก็ต้องพัฒนาไปสู่ความทันสมัย ไม่ใช่ถือดาบลบกันหรือถือปืนเดินหน้าตีกันเหมือนสมัยก่อน วันนี้และวันหน้าใช้เทคโนโลยี ฉะนั้นต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศและภายนอกประเทศ ซึ่งต้องทำให้ดินแดงอาเซียนของเราสงบสุขเป็นดินแดนของรอยยิ้ม 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องที่ดิน ว่า การจัดหาที่ดินให้เอกชน รัฐบาลเราได้คิดออกมามันถึงมีกลไก เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงที่ดิน การทับซ้อนที่ดินของภาครัฐเยอะพอสมควร วันนี้คิดไปคิดมาที่ดินประเทศไทยลดลงไม่ได้เพราะมันซ้ำกัน แต่ไม่เป็นไรเพียงพอ เพราะหลายคนก็อยากอยู่ต่างประเทศพอสมควรเหมือนกันที่ก็น่าจะพอนะ

"เดี๋ยวก็เป็นข่าว ผมชอบพูดหาเรื่อง แต่บางทีไม่อยากไปอีกตอบโต้เขาไง ซื้อวันนี้ประเทศชาติกำลังเดินไปได้ด้วยดี"

ขณะที่การประชุมเอเปค 2022 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในครั้ง นายกฯ คาดว่าก็เป็นไปด้วยดี ซึ่งช่วงปลายสัปดาห์นี้ตนจะเดินทางไปประชุมอาเซียน และกลับมาร่วมประชุมเอเปค พร้อมแสดงความมั่นใจว่าตนเองยังไหว เพราะต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดในฐานะเป็นเจ้าภาพ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญคือความรักความสามัคคีของทุกคนในชาติ อย่าเอาตน เป็นตัวกำหนดว่าชอบหรือไม่ชอบตน เกลียดหรือไม่เกลียด พร้อมขอบคุณคนที่รัก ก่อนที่จะหัวเราะและเงียบไปพักหนึ่ง และได้กล่าวต่อว่า วันนี้มีความสุข แม้อาจพูดจาไม่เป็นทางการอยู่บ้าง

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยอมรับความเห็นการเมืองโดยสุจริต แต่ถ้าพูดโดยไม่มีข้อมูล ตนก็จำเป็นต้องชี้แจง เพราะบางทีมันไม่ใช่ซึ่งตนไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ตน อยากฟังเสียงประชาชนในสิ่งที่ต้องการเป็นไปได้และแก้ปัญหาอย่างรูปธรรม