ไม่พบผลการค้นหา
รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ ชี้ นักการเมืองรุ่นพี่ ใช้ความเก๋าสร้างเกมต่อรองจนเกินงาม สะท้อนวัฒนธรรมการเมืองแบบเก่าที่ผลประโยชน์อยู่เหนือความชอบธรรม นักการเมืองรุ่นใหม่ๆ จะเอาตัวอย่างจากที่ไหน เตือนเลือกตั้งรอบหน้าระวังจะโดนสั่งสอนจากประชาชน

ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อกรณี ความไม่ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบัน ว่า การเลือกตั้งผ่านมากว่าสองเดือนแล้ว แต่ประเทศไทยก็ยังไม่มีรัฐบาล ไม่มีแม้กระทั่งความชัดเจนว่า พรรคใด ขั้วใด จะได้เป็นรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งในบรรยากาศที่บ้านเมืองเป็นปกติ แค่เพียงวันเดียวหลังการเลือกตั้ง ก็จะสามารถทราบได้แล้ว 

ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอคอย หลังไม่ได้มีการเลือกตั้งมาหลายปี ยังเป็นความหวังว่าประเทศจะได้หลุดพ้นวงจรอุบาทว์ ปัญหาต่างๆ ของประเทศจะได้รับการคลี่คลาย แต่กลับกลายเป็นหนทางพาประเทศกลับสู่ปัญหาหนักยิ่งกว่าที่เคย ทำประเทศถอยหลังไปหลายสิบปี และมีวี่แววจะเดินเข้าสู่ทางตัน 

ดร.รยุศด์ กล่าวอีกว่า มีบางพรรคการเมือง และนักการเมืองบางกลุ่ม ที่ยังไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา แทนที่จะใช้โอกาสที่ได้รับจากประชาชน มาร่วมมือกัน นำประเทศออกจากวิกฤต ร่วมกันต่อสู้กับระบอบเผด็จการตามที่สัญญากับประชาชน ทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง แต่กลับใช้วาทกรรม ข้ออ้าง และรูปแบบการทำงานทางการเมืองเดิมๆ เพื่อได้มาซึ่งอำนาจ ผลประโยชน์ หรือได้กำกับดูแลกระทรวงที่มีความสำคัญ ในทางการเมืองตนมองว่า การต่อรองเกิดขึ้นได้ และเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ควรที่จะต้องทำให้เกิดความชัดเจน แต่กลับสร้างเกมต่อรองจนเกินงาม มันสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการเมืองแบบเดิมๆที่ "ผลประโยชน์ยังอยู่เหนือความชอบธรรม" 

ทีนี้นักการเมืองรุ่นใหม่ๆ จะเอาตัวอย่างจากที่ไหน หากนักการเมืองรุ่นพี่ยังคงเล่นเกม สร้างการต่อรองไม่รู้จบรู้สิ้นจนเกินงาม เกินความพอดี เมื่อเป็นเช่นนี้ จะยังมีคนดี คนเก่ง อยากจะอาสาเข้ามาทำงานให้บ้านเมืองต่อไปอีกหรือไม่ ถ้านักการเมืองยังติดอยู่กับภาพลักษณ์แบบเดิมๆเช่นนี้ และหากพรรคการเมือง หรือนักการเมืองทั้งหลาย ยังไม่ปรับตัว เรียนรู้บทเรียนในอดีต อีกทั้งยังตระบัดสัตย์ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ระวังเลือกตั้งรอบหน้า จะถูกประชาชนสั่งสอนอย่างหนัก