ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดันเช็กลิสต์ 3 มาตรการรัฐทำทันทีแก้โควิด-19 ปิดประเทศควบคุมโรค - สาธารณสุขเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อ - ด้านเศรษฐกิจดูแลผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมหนุนออก พ.ร.บ.โอนงบฯ - พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน ระดมแก้ปัญหา - ช่วยเหลือประชาชน ซัดรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไม่วางแผน ทำให้เกิดวิกฤต

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอ "เช็กลิสต์มาตรการที่รัฐต้องทำทันทีเพื่อแก้ไขวิกฤตโควิด-19" โดยระบุว่า สถานการณ์ประเทศไทย เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีมาตรการปิดประเทศ รวมถึงจำกัดการพบปะของผู้คน ซึ่งพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอเรื่องการวางแผนเช็คลิสต์มาตรการรัฐ 3 ด้าน ที่ต้องทำทั้งก่อนและระหว่างการล็อกดาวน์ ได้แก่

1.มาตรการควบคุมโรค ปิดประเทศห้ามผู้ใดเดินทางเข้าออก ยกเว้นคนไทยเดินทางกลับประเทศที่ต้องมีการกักกันและคัดกรอง สำหรับในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง ให้ใช้มาตรการ Strict Lockdown กักตัวในบ้านเข้มงวด ส่วนพื้นที่อื่นๆ ให้ปิดสถานที่เสี่ยงเหลือเพียงร้านของชำ ร้านขายอาหาร และร้านยา นอกจากนี้ต้องหยุดระบบขนส่งมวลชนทั่วประเทศ ยกเว้นการเดินทางส่งสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร ยา และกรณีฉุกเฉินเท่านั้น  

2.มาตรการด้านสาธารณสุข ควรต้องปรับคำนิยามโรคให้เท่ากับองค์การอนามัยโลก และต้องเร่งตรวจเชิงรุกมากขึ้น เพิ่มจำนวนการตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด รวมถึงการเพิ่มเตียงทางการแพทย์ เพิ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ เตรียมโรงพยาบาลสนาม ระดมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้เพียงพอต่อสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายที่สุด 

3.มาตรการทางเศรษฐกิจ ล็อกดาวน์หนี้ ล็อกดาวน์ดอกเบี้ย ล็อกดาวน์ภาษี พยุงรายได้ และเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ มาตรการการดูแลและเยียวยาผลกระทบที่กระทรวงการคลังเพิ่งออกมา เป็นไปเพื่อการเยียวยาย้อนหลังจากการปิดสถานประกอบการต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยจะได้รับเงินเยียวยาประมาณต้นเดือน เม.ย. ซึ่งก็ถือว่าล่าช้าไปมาก

"แต่ถ้าเราจะล็อกดาวน์ที่จะกระทบคนในวงกว้างกว่านั้น การชดเชยแรงงานนอกระบบ 3 ล้านคนคงไม่เพียงพอ เพราะแรงงานนอกระบบทั้งประเทศนั้นมีถึง 9 ล้านคน ที่ไม่นับรวมเกษตรกร เราคงต้องเตรียมมาตรการชุดใหญ่ให้ครอบคลุม และทันต่อเหตุการณ์ รวมไปถึงการเตรียมการขนส่งอาหาร และของใช้จำเป็น" นายพิธา กล่าว

นายพิธากล่าวด้วยว่า "ในส่วนของมาตรการเศรษฐกิจนั้น เราจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีงบประมาณเพียงพอ แต่เนื่องจากงบกลางสำหรับใช้ในเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัตินั้น เหลือน้อยเต็มที เพราะถูกนำไปใช้แจกกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้าจะมีวิกฤตโควิดไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า พรรคก้าวไกลเสนอให้ออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563 ย้ายงบประมาณการลงทุน งบประมาณเมกะโปรเจกต์ของกระทรวงต่างๆ มาใช้ รวมถึงเสนอให้ออก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน เพื่อรับมือและแก้ไขวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้"

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบัน จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินไปแล้ว แต่การกระทำเช่นนี้ไม่ได้ชี้ชัดว่ารัฐบาลจะคุมการแพร่ระบาดของโรคและช่วยเหลือประชาชนได้สำเร็จ เพราะประเด็นปัญหาหลักไม่ใช่เรื่องอำนาจตามกฎหมาย แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ไม่เปิดเผยข้อเท็จจริง และไม่มีการวางแผนรับมือที่ดีพอ จึงหวังว่ามาตรการที่เราเสนอจะถูกนำไปใช้ช่วยเหลือประชาชน และหวังว่าเราทุกคนจะร่วมมือกันฟันฝ่าผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง