ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทยแถลงประเด็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยันกฎหมายไม่เปิดทางช่องให้จัดสรร ส.ส. ให้พรรคการเมืองที่มีคะแนนต่ำกว่า 7.1 หมื่นคะแนนได้ เตือน กกต.ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเตรียมดำเนินการเอาผิด

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะยื่นหนังสือแสดงเหตุผลไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การคิดสูตรคำนวณหา ส.ส.แบบบัญชีรายซึ่งต้องคำนวณตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และรัฐธรรมนูญเป็นหลัก 

นายชูศักดิ์ ยืนยันว่า การที่พรรคการเมืองจะได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองนั้นต้องได้รับคะแนนไม่ต่ำกว่าจำนวนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน โดยจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคพึงมีนั้นต้องยึดจำนวนที่คำนวณได้เป็นเกณฑ์โดยไม่สามารถปรับลดเพื่อนำจำนวนส.ส.ที่พึงมีของแต่ละพรรคการเมืองไปเฉลี่ยให้กับพรรคการเมืองที่มีคะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนนได้ เว้นแต่เป็นการคำนวณตาม (5) (6) หรือ(7) ของมาตรา 128 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 เท่านั้น

เมื่อพรรคการเมืองใดที่มีคะแนนต่ำกว่าผลลัพธ์ของคะแนนต่อจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคือต่ำกว่า 71,065 คะแนนซึ่งไม่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี ย่อมไม่มีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามมาตรา 128 (4) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ซึ่งมาตรา 128(4) กำหนดให้จัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมืองตามหลักเกณฑ์

นอกจากนี้พรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 128(5) ต้องเป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.พึงมีเสียก่อน แล้วเมื่อพรรคการเมืองใดมีคะแนนไม่ถึงอัตราส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คนคือ 71,065 คะแนน จึงเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามนัยมาตรา 128(1)(2)(3)(4) และ(5) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ตามที่กล่าวมาข้างต้น พรรคการเมืองนั้นย่อมไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อตามนัยมาตรา 128(2)

ซึ่งในกรณีที่มีการจัดสรรตามนัยมาตรา 128 (5) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ 2561 แล้วมีจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเกิน 150 คนโดยให้นำจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคจะได้รับคูณด้วย 150 หารด้วยผลบวกของ 150 กับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่เกิน 150 คน ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรรและนำมาคำนวณตามอัตราส่วนตามเกณฑ์ข้างต้นพรรคการเมืองนั้นต้องมีจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับก่อน

เพื่อไทย ภูมิธรรม eb Cover Template.jpg

นายภูมิธรรม ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะประชุมใหญ่สามัญวันที่ 21 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้และรายงานผลการดำเนินงานจะต้องรายงานงบการเงินตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา พร้อมทำความเข้าใจกับสมาชิกว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอและแถลงการณ์ไว้กับประชาชนจะนำสิ่งต่างๆไปปฏิบัติ หากเป็นรัฐบาลจะดำเนินการทันที 

พรรคเพื่อไทยได้คิดทุกนโยบายอย่างดีและจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อพี่น้องประชาชนโดยจะขยายบทบาทและวิธีการทำงานของพรรคเพื่อไทยและทุกพื้นที่ทั้งชนะเลือกตั้งและยังไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งจะร่วมมือเพื่อทำงานทางการเมืองต่อไปโดย พรรคเพื่อไทยเข้าใจดีว่า ประชาชนต้องการให้เข้ามาแก้ไขปัญหาซึ่งหากเป็นรัฐบาลก็พร้อมจะนำไปสู่การปฏิบัติทันที ขณะเดียวกันจะวางบทบาท ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมกำหนดทิศทางของพรรค ต่อการทำงานทางการเมืองต่อไป

ทั้งนี้ในการแถลงข่าว แกนนำพรรคเพื่อไทยย้ำตรงกันว่า หาก กกต. ไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด พรรคเพื่อไทย จะพิจารณา ใช้ช่องทางต่างๆ ตามที่กฎหมายรองรับเพื่อดำเนินการกับ กกต. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง