ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' รับลูกจ่อขยายเวลาเปิดผับ 4 จว. กระตุ้นท่องเที่ยว เพิ่มจ้างงาน สร้างรายได้ คาดเตรียมเสนอแก้กฎหมาย ให้ผู้ว่าฯ สามารถประกาศพื้นที่โซนนิ่งและเวลาเปิดปิดได้เอง

3 พ.ย. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมแผนบูรณาการการท่องเที่ยว ในการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. โดยจะนำร่องจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และกทม. จะมีความชัดเจนเรื่องโซนนิ่งเมื่อไหร่ ว่า ตอนนี้มีรายละเอียดประเภทของสถานบริการ ทั้งสถานบริการที่ได้รับอนุญาตและอยู่ในโซนนิ่งอยู่แล้ว อันนั้นจะเปิดให้ถึง 04.00 น. 

กับร้านอาหารที่คล้ายสถานบริการ ซึ่งมีเวลาปิด 24.00 น. ตรงนี้จะหาทางให้เปิดได้ถึง 02.00น. เพื่อให้ทำมาหากิน แต่ขณะนี้กฎหมายอนุญาตให้ขายแอลกอฮอล์ได้ถึง 24.00น. ตรงนี้จะพยายามให้นั่งสบายๆ ช่วง 24.00น.ถึง 02.00น. แต่ไม่สามารถเล่นดนตรีได้เพียงแต่ขยายเวลาให้นั่งได้ 

สำหรับร้านที่ไม่มีใบอนุญาต แต่เปิดเกินเวลาก็จะเข้าลักษณะร้านอาหาร ถ้าไม่ขายแอลกอฮอล์ ไม่มีดนตรี จะเปิดถึงเช้าก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าขายแอลกอฮอลก็จะได้ถึงแค่เที่ยงคืน ที่จะขยายเวลาเพราะเราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถ้าผู้ประกอบการสามารถขายอาหารเพิ่มได้ ก็จะมีการจ้างงาน ทำให้มีรายได้เพิ่ม 

ส่วนการจัดโซนนิ่งในพื้นที่ท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี ก็ระบุต้องดูเพราะนักท่องเที่ยวกินข้าวเย็นกัน 22.00น. ถ้าจำกัดเวลาแค่ 24.00 น.ก็สั่งอาหารได้น้อย หากขยายเวลาแล้วอยู่ในโซนนิ่ง มีการควบคุมมีใบอนุญาตถูกต้องก็เปิดได้ อาจไม่ทั้งหมดเพราะมีกฎหมายกำกับไว้แต่พยายามจะคลายให้มากที่สุด โดยกระทรวงมหาดไทย รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรี และคุยกับตำรวจแล้วจะทำร่างประกาศกระทรวงให้สอดคล้องกัน ซึ่งกฎกระทรวงต้องเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบและประกาศลงราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับ 

อีกทั้งต่อไปกระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอออกเป็น พ.ร.บ.ให้อำนาจผู้ว่าฯสามารถประกาศพื้นที่โซนนิ่งและเวลาเปิดปิด ซึ่งตนเห็นด้วยเพราะหากจะขอขยายเวลาปิดเปิดแล้วต้องไปถึงขั้นแก้กฎหมายจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวลำบาก 

ส่วนกรณีมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอยู่ในสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลา ใน จ.เชียงใหม่ อนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดก็ตาม ถ้าไม่ได้เข้าไปเพื่อปฏิบัติงาน เช่น ไปสืบ หรือหาข่าว ถ้าไปแบบเฮฮาก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งอธิบดีกรมการปกครอง ก็ต้องดำเนินการ แต่ทั้งหมดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าไปทำอะไร ยืนยันว่ากฎหมายต้องเท่าเทียมกันทุกคนไม่ต้องกังวล 

เมื่อถามว่า หากขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง อำนาจในการตรวจสอบจะอยู่ที่ฝ่ายปกครอง เป็นผู้เข้าไปดูแลใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ฝ่ายปกครอง ดูแล และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดูแล แต่กรณีที่เกิดขึ้น ตนได้หารือกับ ผบ.ตร. อธิบดีกรมการปกครอง จะร่วมกันมีชุดเฉพาะกิจร่วมปฏิบัติงานด้วยกันทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เกิดการกลั่นแกล้งใคร หรือชิงกันทำงานเอาหน้าเอาตา เพื่อให้อีกฝ่ายเดือดร้อน ปัญหาจะได้หมดไป เพราะถึงอย่างไรต้องทำงานด้วยกัน และในระดับบนและผู้บริหารทุกคนมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอย่างมาก และเมื่อพูดคุยกับ ผบ.ตร.ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี ขณะที่มหาดไทยก็จะให้ความร่วมมือเต็มที่ จากนี้ไปผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานและร่วมมือกันจัดระเบียบเพื่อให้สังคมสงบเรียบร้อย