“ถึงทหารรัสเซียและผู้บังคับบัญชาของตน ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คุณได้นำสงครามมายังโลกของเราอย่างไม่เป็นที่ต้อนรับและไร้เหตุผล” ชาปูโตวาชระบุในวิดีโอความยาวสามนาทีโดยตรงไปถึงทหารรัสเซียที่กำลังรบอยู่ในยูเครนทางตะวันออกและทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียแล้ว
“คุณได้เปลี่ยนโลกที่ไร้สงคราม โลกที่เราพยายามจะใช้ชีวิตของตน ไปเป็นโลกที่โหดร้ายและแสนพิลึก โลกที่ไม่รู้สึกรู้สาต่อการนองเลือด ไม่มีใครข่มขู่คุณ ไม่มีใครต้องการจะทำร้ายคุณ แต่ตอนนี้คุณได้ก่อความรุนแรงที่ไม่สามารถแก้ไขได้แทน เราเคยได้ยินผู้คนพูดถึงสงคราม วันนี้เราได้ยินเสียงร้องไห้จากคำให้การของหญิงที่กำลังอธิบายความหวาดกลัว เราแทบจะจินตนาการไม่ออกจนกระทั่งไม่นานมานี้” ชาปูโตวาชระบุ
“คุณสร้างความชอบธรรมในการรุกรานของคุณโดยใช้คำว่า ‘การปลดแอก’ แต่ความพยายามของคุณในการ ‘ปลดแอก’ ทาเทียนาจากเออร์ปิน ผู้ที่ถูกสังหารโดยระเบิดของรัสเซียพร้อมกับลูกทั้งสองของเธอ ขณะที่เธอกำลังวิ่งข้ามถนนที่ควรจะเป็นพื้นที่หนึ่งของระเบียงมนุษยธรรมงั้นหรือ หรือ โอเลนาจากโฮสโทเมล ผู้ที่ถูกข่มขืนโดยคนของคุณบนรถงั้นหรือ เธอไม่ได้กรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือเพียงเพราะแค่ว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้นเพื่อช่วยเธอ เธอแค่คิดว่าเธอจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร” ประธานาธิบดีสโลวาเกียกล่าว
“แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับเวราจากสิ่งที่ควรจะเป็น ‘การถูกปลอดแอก’ จากอะไรล่ะ หญิงชราจากหมู่บ้านเล็กๆ เธอแทบจะเป็นคนในวัยแม่ของทหารที่จับตัวเธอและบีบคอเธอ เพื่อที่เธอจะได้หายใจไม่ออก แล้วก็ถูกข่มขืน และเมื่อเวราถามทหารคนนั้นว่าเขาจะยอมให้มันเกิดเรื่องแบบนี้กับแม่ของตัวเองได้หรือ เขาจึงตัดสินใจปิดปากเธอซะ” ชาปูโตวาชกล่าว
“ดิฉันคือผู้หญิงและแม่” ประธานาธิบดีสโลวาเกียกล่าว “และเมื่อดิฉันได้อ่านข่าวจำนวนมาก และเห็นคำให้การอันสยองขวัญในทุกวัน ดิฉันพูดอะไรไม่ออก สิ่งทั้งหมดที่ดิฉันเห็นคือผู้หญิงและเด็กหลายสิบคน พลเรือนทั้งหลายถูกบีบขยี้ด้วยความเจ็บปวดอันแสนสาหัส”
“ดิฉันเห็นดวงวิญญาณของพวกเขามีรอยบาดแผลจากความเจ็บปวดทรมานไปตลอดชีวิต หญิงทุกคนที่รอดชีวิตจากการทรมานที่คุณได้ทำร้ายพวกเธอจะถูกโดดเดี่ยว พวกเธอจะอยู่อย่างลำพัง อยู่อย่างลำพังกับความคิดที่สุดแสนยากที่จะเข้าใจหยั่งถึงโดยผู้อื่น พวกเธอไม่สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้” ชาปูโตวาชกล่าว
“พวกเธอพบว่ามันไม่มีคำพูดที่เพียงพอ เมื่อพวกเธอพยายามจะอธิบายความเจ็บปวดที่คุณได้สร้างมันให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเธอ ด้วยเหตุผลง่ายๆ เหตุผลอะไรกันล่ะ ไม่มีใครในพวกเรารู้คำตอบของคำถามนี้เลย คุณรู้ไหม” ชาปูโตวาชถามรัสเซีย
“ทุกสงครามคือความรุนแรง” ชาปูโตวาชย้ำ “มันคือเหตุผลว่าทำไมในเส้นทางสู่อารยธรรม มนุษยชาติได้รับเอาข้อตกลง กฎเกณฑ์ เพื่อปกป้องผู้ที่ตกไปเป็นเหยื่อของมันจากผลพวงที่ตามมาของมัน ในเด็กๆ แต่ละคนและทุกๆ คน ชีวิตของพวกเขาสูญเปล่า อย่างไรก็ดี คุณละเมิดกฎของสงคราม หลักการและเกียรติยศของคุณสูญสิ้นไปแล้ว”
“ทหารรัสเซีย ผู้บังคับบัญชา ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง” ประธานาธิบดีสโลวาเกียกล่าวโดยตรงถึงผู้รุกราน “หากคุณยังคงมีความรู้สึกของร่องรอยการมีมนุษยธรรมอยู่ในตัวคุณ นำมันกลับมายังชีวิตของคุณเถิด และหยุดสงครามอันเลวร้ายนี้ลง เพราะในแต่ละวันที่ผ่านไป คุณได้แต่เพียงเพิ่มกองกำลังของดวงวิญญาณที่บอบช้ำ ร่างศพของผู้หญิง เด็ก และประชาชานผู้บริสุทธิ์” ชาปูโตวาชกล่าวทิ้งท้าย “การทำร้ายผู้ที่ไม่สามารถป้องกันตนเองได้คือการป่าวประกาศถึงความอ่อนแอที่สุด”
ที่มา: