วันที่ 19 มี.ค. ที่หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3 จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวถึงการพูดคุยกับทางการญี่ปุ่นถึงเรื่องการพิจารณาฟรีวีซ่า 15 วันว่า ได้อธิบายให้ทางการญี่ปุ่นเข้าใจว่า ควรแบ่งคนไทยเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ นักท่องเที่ยวไทยที่เข้าไปอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเขายังมองเห็นความสำคัญคนไทยกลุ่มนี้อยู่ เพราะกลุ่มนี้ที่เข้าไปนั้นมีจำนวนหลักล้านคนต่อปี ซึ่งเขาก็จะนำข้อมูลของเราไปป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่คนไทยพำนักเกิน 15 วัน
จักรพงษ์ กล่าวอีกว่า ได้คุยกับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อหาวิธีทำให้แรงงานไทยไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งนั่นจะทำให้แรงงานไทยได้รับความคุ้มครองด้านแรงงานอีกด้วย
แม้ว่าทางสถานทูตไทยในประเทศญี่ปุ่นพยายามเตือนหลายครั้งแล้วนั้น จักรพงษ์ กล่าวย้ำว่า เราต้องมีการเริ่มเก็บข้อมูลว่า ใครเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งตอนนี้ก็เก็บได้เยอะแล้ว แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า ข้อมูลบางอย่างนั้นเป็นความเป็นส่วนตัว ส่วนปัญหาแรงงานผีน้อยในญี่ปุ่นจะยืดเยื้อเหมือนเกาหลีใต้หรือไม่นั้น มั่นใจว่า ไม่ถึงขนาดนั้น
ส่วนกรณีที่ประเทศฟินแลนด์ระงับวีซ่าแก่แรงงานไทยที่เข้าไปทำงานเก็บผลไม้ป่า จักรพงษ์ กล่าวว่า คนไทยที่เข้าไปเก็บเกี่ยวผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์เป็นเรื่องของวีซ่าแรงงาน เนื่องจากทางประเทศฟินแลนด์ไม่ได้ลงนามวีซ่าสำหรับแรงงานกับประเทศเรา ดังนั้นจึงต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยวให้แก่แรงงานไทย
จักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของสิทธิคุ้มครองแรงงาน เนื่องจากมีแรงงานไทยในฟินแลนด์บางส่วนที่โดนหลอกไปด้วย จึงต้องคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต่อไป ส่วนแรงงานไทยที่ลักลอบเข้าฟินแลนด์อย่างผิดกฎหมายนั้นมีน้อย เพราะฉะนั้นในเรื่องของฟินแลนด์จึงเน้นย้ำแค่เรื่องของความคุ้มครองแรงงานแก่แรงงานไทยที่เข้าไปอย่างถูกกฎหมาย