การเมือง
‘พีระพันธุ์’ยังกั๊ก 'ประยุทธ์' เข้า รทสช. โยนชัดหลังเอเปค โต้ 'โทนี่' เย้ยได้ไม่ถึง 25 ส.ส.
วันที่ 9 พ.ย. 2565 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีจะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ เพราะเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) มีเวลาพูดคุยกันนิดเดียว และนายกฯ ต้องไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อ
พีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าว สื่อตั้งข้อสังเกตกันไปตามกระแสข่าว แต่ตนยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยหารือ ซึ่งปกติก็คุยกันแค่เรื่องงานที่ได้รับมอบหมาย และเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ตนจะไปเริ่มถามท่านก่อน แต่ทั้งนี้หลังการประชุมเอเปคคงจะมีอะไรชัดเจน
เมื่อถามว่า แต่ในพรรครวมไทยสร้างชาติก็ค่อนข้างเปิดกว้างที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรค พีระพันธุ์ ตอบว่า พรรคไม่เคยปฏิเสธใครที่คิดว่าแนวทางของพรรค และเขาตรงกัน โดยเฉพาะหากนายกฯ มีความสนใจอย่างที่ว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นข้อขัดข้อง เพราะต้องการรวบรวมคนดีๆ เข้ามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ข้อเท็จจริงมีเท่านี้ ทั้งหมดต้องรอหลังการประชุมเอเปค เพราะคิดว่าตอนนี้ ท่านคงเป็นห่วงเรื่องดำเนินการความเรียบร้อยเรื่องนี้ ไม่ใช่เวลาไปสอบถามท่าน
ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า มีนักการเมืองบางคนตั้งข้อสังเกตว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ คงแพ้ฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย พีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ การเมืองไม่มีความชัดเจน ไม่มีใครรู้อนาคตทางการเมือง แม้แต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ก็ไม่ได้มีใครบอกว่า พรรคพลังประชารัฐจะชนะขนาดนี้เหมือนกัน ดังนั้นมันเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที
พีระพันธุ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวในรายการคลับเฮ้าส์ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส. ในสภาไม่ถึง 25 เสียง ไม่สามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ ว่า ก็ไม่เคยเห็นท่านชื่นชมใครนอกจากพรรคของท่าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา และตนไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้
พีระพันธุ์ ยังระบุอีกว่า แนวทางของพรรคที่ดำเนินการมาตลอด อย่างก่อนหน้านี้ที่มีประเด็นเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 100 หรือ500 ตนก็เรียนมาตลอดว่า ไม่ได้สนใจเพราะเป็นเรื่องบัญชีรายชื่อ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติเน้นที่เขต ไม่ว่าจะหาร 100 หรือ 500 ก็มีพร้อม และมั่นใจในศักยภาพตามพื้นที่ต่างๆ ที่ได้ปักธงไว้
เมื่อถามอีกว่า จะมีคนเด่น คนดังมาร่วมงานกับพรรคหรือไม่ พีระพันธุ์ ระบุว่า เดี๋ยวรอดูเมื่อเวลามาถึงแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ มาจริงๆ ตำแหน่งไหนที่เหมาะ พีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้วันนี้ อะไรที่ยังไม่เกิดไม่มี ไม่รู้จะคิดไปทำไม และท่านก็ยังไม่ได้มาเขียนใบสมัคร นาทีท่านคงสนใจเรื่องการประชุมเอเปคมากกว่า นั่นเป็นเรื่องประเทศชาติ เรื่องวันนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ท่านคงคิดถึงแต่ความสำเร็จของงานเพื่อชื่อเสียงประเทศชาติ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมาเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ พีระพันธุ์ ตอบว่า แล้วแต่ท่าน การให้การสนับสนุนไม่ได้แปลว่าต้องเป็นสมาชิกเสมอไป ก่อนตนมาเข้าการเมือง ตนก็เห็นด้วยกับพรรคโน้นพรรคนี้ แต่ไม่ได้สังกัดพรรคไหน การสนับสนุนพรรคการเมืองทำได้ 2 แบบ คือเข้ามาเป็นผู้เล่น หรือสมาชิกพรรค หรือให้ความสนับสนุนในการต่างๆ
พีระพันธุ์ ยังกล่าวถึง ความพร้อมในการเลือกตั้งในปีหน้าอีกว่า ตอนนี้วางผู้สมัครไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้หมดเรื่องการเตรียมหาผู้สมัคร และเตรียมเลือกตั้งอย่างเดียว เรามีความพร้อม
เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ มาเข้าร่วม ก็จะดึงคนจากพรรคพลังประชารัฐมาด้วย จนทำให้เกิดพื้นที่ซ้ำซ้อน พีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนบริหารพรรค ตนต้องรักษาคำพูด ถ้ามั่นใจรับปากใครแล้วไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าสมมติมาจริงก็เป็นเรื่องบุคคลต้องไปคุยกัน ไม่ใช่เรื่องของพรรค และยืนยันไม่เปลี่ยนใคร
"เวลานี้มีผู้สมัครครบทุกภาคแล้ว แต่ว่าจะตัดสินใจอีกครั้งในบางเขต แต่ยืนยันส่งครบทุกเขต แต่จากประสบการณ์พอถึงเวลาจริง คนยื่นความจำนงก็ขอถอนตัว การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ณ วันนี้เป็นแบบนี้" พีระพันธุ์ ระบุ
เมื่อถามว่า คาดหวังให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคขนาดไหน พีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ว่าพรรคไหนก็คาดหวังเป็นพรรคใหญ่ทั้งนั้น แต่ได้แค่ไหนอยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชน ถ้าประชาชนเห็นว่าเป็นแนวทางที่อยากเห็นอยากมี และไม่เคยมี เราก็ได้ ส.ส. เยอะ และนำเสนอแนวทางให้ประชาชนมั่นใจว่า แนวทางของเราใช้ประชาชนเป็นปัจจัย และประชาชนต้องมั่นใจว่านอกจากใช้แล้ว ต้องทำได้จริง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พีระพันธุ์ ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอยู่ใช่หรือไม่ พีระพันธุ์ ตอบว่า ก็วันนี้เป็นหัวหน้าพรรค ยังไม่มีคนอื่นมา และจริงๆ ยังไม่มีใครมา เพราะยังไม่ถึงเวลา ทางพรรคไม่ได้คุยเรื่องนี้ เราคุยกันแต่เรื่องเตรียมเลือกตั้งมากกว่า เพราะถ้าไม่มีความพร้อมเลือกตั้ง ก็ไม่ต้องพูดเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ส่วนเรื่องคนใหม่ที่เข้ามาจะมาตั้งกลุ่มก๊วนอะไรหรอไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มก้อน ใครจะสร้างกลุ่มก้อนก็ไปอยู่ที่อื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
