นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าเยาวชนที่มาร่วมชุมนุมเป็นความปกติแต่ถูกทำให้ไม่ปกติ พวกเขาพูดถึงการปฏิรูปในหลายด้าน เช่น การศึกษา รัฐสวัสดิการ ความหลากหลายทางเพศ และอนาคตของเขา เป็นสิ่งที่ควรเอามาฟัง แต่กลับมากล่าวหาผู้ชุมนุมและลูกหลานของตัวเอง และยืนยันความถูกต้องในการทำร้ายลูกหลานตัวเอง
ตนจะกล่าวถึงกรณีที่กล่าวว่า การชุมนุมจะส่งผลต่อการระบาดของโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า ศบค. ไม่มีความรู้ แต่ใช้เชื้อโรคมาเป็นข้ออ้าง เพราะตั้งแต่มีการชุมนุมมาไม่มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อจากการชุมนุม และจากการสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมมีอาการคล้ายคลึงกับแก๊สน้ำตา และมีการรายงานจากสมาคมโรคปอดของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการใช้แก๊สน้ำตาทำให้คนมีความเสี่ยงในการเป็นโควิด-19 และห้ามใช้ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19
ดังนั้นแทนที่จะกล่าวหาผู้ชุมนุม ต้องโทษรัฐบาลมากกว่าที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการระบาด ส่วนการกล่าวว่าการใช้กำลังสลายการชุมนุมเป็นไปตามหลักสากล ตนถามกลับว่าใช้แหล่งไหนอ้างอิง ตนใช้เอกสารกฎการใช้กำลังของสหประชาชาติปี 2020 ที่กำหนดว่าต้องทำเมื่อมีความจำเป็นและต้องได้สัดส่วน และต้องระวังกลุ่มเปราะบาง แต่ในการชุมนุมมีเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเมื่อดูการสลายการชุมนุมแยกปทุมวัน ผู้ชุมนุมมาร่วมยังไม่ถึงชั่วโมง ปิดช่องทางสาธารณะไม่อำนวยความสะดวกในการกลับ ไม่มีการเจรจา ทั้งที่เป็นการชุมนุมโดยสงบ แต่กลับมีการฉีดน้ำสลายการชุมนุม
ซึ่งการฉีดน้ำสลายการชุมนุมในระยะใกล้เคยส่งผลให้มีตัวอย่างผู้เสียชีวิตมาแล้วในต่างประเทศ อีกทั้งการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวันมีการผสมสารเคมีบางอย่าง หลักการสากลในการใช้สารเคมีต้องมีข้อมูลด้านพิษวิทยา และเผยแพร่ว่าใช้สารเคมีอะไรอย่างชัดเจน เพื่อให้คนที่ได้รับผลได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี การไม่แจ้งจึงถือว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ตนคาดว่าสารเคมีนี้น่าจะเป็นแก๊สน้ำตา แต่ถ้าวันนั้นไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาก็ถือว่าผิดหลักการระหว่างประเทศฐานใช้อาวุธเคมี ตนขอเสนอให้สภานี้ตั้งคณะกรรมาธิการ หรือใช้กรรมาธิการสามัญของสภาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้กระจ่างเพราะตอนนี้ยังไม่มีการความรับผิดชอบหรือการแถลงจาก กอ.รฉ. ว่าสารเคมีคืออะไร แก๊สน้ำตานอกจากจะทำให้มีผลต่อปอดแล้ว คนที่อ่อนแออาจถึงชีวิตได้
ส่วนรั้วลวดหนามก็ไม่ถูกหลักสากลของการตั้งสิ่งกีดขวาง เพราะต้องไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ อาวุธควบคุมความเสี่ยงที่อันตรายถึงชีวิต กองกำลังควบคุมฝูงชนต้องดูแลสิทธิมนุษยชนตลอดการปฏิบัติการ และตำรวจที่มาทำงานในวันนั้นมีความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของผู้ชุมนุมแค่ไหน มีการอบรมกี่ชั่วโมง หรือผ่านการประเมิณหรือไม่ และต้องมีการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างทันท่วงที
แต่กลับกัน เจ้าหน้าที่รัฐกลับเข้ามารบกวนการปฏิบัติงานของอาสาสมัครแพทย์ตลอดเวลา มีการยึดเครื่องมือการสื่อสาร และนักข่าวเผยแพร่ว่า เจ้าหน้าที่ปิดกั้นรถข่าวไม่ให้เดินทาง และมีการจับกุมอาสาสมัครแพทย์ไปด้วย ซึ่งผิดกับหลักสากลอย่างชัดเจน ความโปร่งใสของการปฏิบัติการต้องมีการสังเกตการณ์และให้ข้อมูลกับหน่วยงานกลาง เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน และต้องแจ้งทันที แต่มีหรือไม่กับการปฏิบัติการครั้งนี้ อีกทั้งยังมีหลักการสากลชัดเจนว่าการเชื่อฟังคำสั่งที่ผิดกฎหมาย ผู้ปฏิบัติการก็มีความผิดเช่นกัน ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้ผู้ปฏิบัติการที่อึดอัดใจมายืนเคียงข้างประชาชน และการปฏิบัติการที่ขัดต่อหลักสากล รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ชาติคือประชาชน คำว่ารักชาติต้องมีค่ามากกว่าตำแหน่ง แต่ถ้าทำแบบนี้คือไม่รักประชาชน ตนขอให้นายกฯ ลาออก