ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย-เชียงเพ็ง ประกาศไม่ยอมรับมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ช่วงรอยต่ออำเภอในยโสธร พร้อมท้า กกพ. "ถ้าเกิดผลกระทบจะรับผิดชอบหรือไม่"

สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็งประมาณ 200 คน รวมตัวกันที่ศาลาประชาคม หมู่ 1 บ้านเชียงเพ็ง ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ทำกิจกรรมเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กพพ. ซึ่งอนุมัติผ่านโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ โดยจะก่อสร้างในพื้นที่ตำบลน้ำปลีก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ รอยต่อ ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร โดยกลุ่มอนุรักษ์ระบุว่าการลงมติเป็นการลักไก่ พร้อมประกาศไม่ยอมรับมติดังกล่าวของ กกพ. 

นางลำดวน เนินทราย อายุ 42 ปี สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็ง กล่าวว่า หลังได้รับทราบข่าวว่า กพพ. อนุมัติให้โรงไฟฟ้าชีวมวล วันแรกก็ยังทำใจไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเราก็ยืนยันข้อมูลเสมอว่าถ้ามีโรงไฟฟ้าชีวมวลตรงนี้ จะส่งผลกระทบทั้งสุขภาพคน พืช และสัตว์เลี้ยง เนื่องจากวิถีชีวิตของคนเชียงเพ็งพึ่งพาทรัพยากรมาตั้งแต่เกิดจนตาย วันนี้ทางกลุ่มจึงไม่พอใจกับการกระทำของ กกพ. ก็มาร่วมกันเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง กกพ.ที่พิจารณาโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยไม่แจ้งให้คนในพื้นที่รับรู้ ทั้งๆ ที่ทางกลุ่มก็ทำหนังสือแจ้งไปว่า ก่อ��พิจารณาจะต้องแจ้งให้ทางกลุ่มทราบก่อน 7 วัน และเราเตรียมที่จะเคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อไม่ยอมรับมติพิจารณาของ กกพ.

736580.jpg

ด้านนางมะลิจิตร เอกตาแสง อายุ 58 ปี กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็ง อ่านแถลงการณ์ “ประกาศไม่ยอมการพิจารณาของ กกพ. พร้อมท้า กกพ. ถ้าเกิดผลกระทบอันใกล้นี้ กกพ.จะรับผิดชอบหรือไม่” โดยมีเนื้อหาคำประกาศดังนี้ จากกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้นำโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขาด 61 เมกะวัตต์ขึ้นมาพิจารณาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุมัติผ่านไปแล้วนั้น ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็ง ตั้งข้อสังเกตต่อกระบวนการที่ผ่านมาดังนี้ 

1. เป็นใบสั่งมาหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มบางกลุ่มเป็นกรรมการที่อยู่ในโครงสร้างประชารัฐ ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ ที่จะสร้างในพื้นที่ตำบลน้ำปลีก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ รอยต่อ ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร มีรัศมี 5 กิโลเมตรอาจจะส่งผลกระทบด้านฝุ่นละอองทางอากาศและมลพิษทางน้ำ เป็นหนึ่งในโครงการประชารัฐ ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็งจึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นใบสั่งมาหรือไม่ ทำไมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานไม่รับฟังความเห็นต่างจากประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ และไม่ชะลอการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยซึ่งชาวบ้านกำลังตั้งหน้าตั้งตารอการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และการใช้สิทธิในกระบวนการมีส่วนร่วมที่แท้จริงได้ 

2. ปัญหาผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 พิสูจน์ให้เห็นแล้วการที่สังคมไทยต้องเผชิญกับสภาวะฝุ่นเกินค่ามาตรฐานแต่รัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ ผู้ที่รับชะตากรรมคือชาวบ้านในพื้นที่ ส่วน กกพ. ผู้พิจารณาอยู่ในห้องแอร์ลอยนวลเสมอ

ดังนั้นทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็งจึงขอท้าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ด้วยประการดังนี้

1. ถ้าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ กกพ. กล้ารับผิดชอบหรือไม่

2. ปัญหาฝุ่นละอองที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศและสุขภาพ กกพ. กล้ารับผิดชอบหรือไม่

ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายประกาศเพิ่มเติมเ่วยว่า จะไม่ยอมรับมติการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น และทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายจะยังคงเดินหน้าคัดค้านโรงฟ้าชีวมวลต่อไป เพื่อสิทธิที่จะได้ใช้อากาศบริสุทธิ์ เพื่อสิทธิในการใช้น้ำที่สะอาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: