นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงออกหนังสือแจ้งขอความร่วมมือ งดเว้นการปล่อยปลาบึกที่ผลิตจากโรงเพาะฟักลงในแม่น้ำโขง และแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง อาทิ ภาคอีสาน : แม่น้ำพอง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล และแม่น้ำสงคราม ภาคเหนือ : แม่น้ำอิง แม่น้ำกก รวมถึงแม่น้ำสายอื่นๆ ที่เชื่อมต่อสู่แม่น้ำโขงด้วย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประชากรธรรมชาติของปลาบึกในแม่น้ำโขงให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
ซึ่งพิจารณาจากการศึกษาวิจัย โดยดูได้จากรายงานผลการศึกษาของ ดร. ไค โลเรนเซน (Dr.Kai Lorenzen) และ คณะ (2006) เรื่อง Development of a conservation strategy for thecritically endangered Mekong giant catfish ว่า การปล่อยปลาบึกที่ผลิตจากโรงเพาะฟักลงในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง จะเป็นการทำลายความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากรปลาบึกธรรมชาติที่มีแห่งเดียวในโลก ถึงแม้ว่าปลาบึกซึ่งเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในโลกปัจจุบันจะถูกขึ้นบัญชีสัตว์คุ้มครองของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CITES) บัญชีหมายเลข 1 คือ ห้ามมิให้ทำการค้าขายปลาบึกธรรมชาติ โดยเด็ดขาดไปแล้ว และประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายห้ามจับปลาบึกตั้งแต่เมื่อปี 2549 แล้วก็ตาม สถานภาพประชากรปลาบึกในลุ่มน้ำโขงก็ยังน้อยลงอยู่ดี ดังนั้นหากมีความประสงค์จะปล่อยปลาบึกขอให้ปล่อยลงในแหล่งน้ำปิดเท่านั้น