อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงแนวคิดการเก็บค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 กับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ว่า เป็นแนวคิดหนึ่งที่ตนได้พูดคุยกับทีมงาน เกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่ขณะนี้เกือบทั้งหมดถูกใช้จ่ายไปกับการแก้ไขปัญหาโควิด 

โดยหลักการพิจารณา อนุทิน ระบุว่า จะใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษารายละเอียดแล้ว แต่โดยหลักการ กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ช่วยเหลือทุกคนที่เจ็บป่วย เพียงแต่บุคคลที่ทำผิดกฎหมายเมื่รักษาพยาบาลเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อหลังจากนั้น ขณะเดียวกันก็ควรมีมาตรการสำหรับคนต่างชาติ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ไม่ว่าจะแข็งแรงหรือเจ็บป่วยเมื่อติดโควิดประเทศไทยก็รักษาให้ฟรี ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ และต้องชี้แจงทำความเข้าใจว่าอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล และผู้ที่ลักลอบเข้ามาต้องถูกดำเนินคดี 

ขณะที่คนไทยที่ทำผิดกฎหมาย ทั้งลักลอบเข้าเมืองและบ่อนการพนัน ป่วยโควิด-19 รัฐบาลก็รักษาให้ฟรี แต่หลังจากรักษาหายแล้ว ก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน เพราะอย่างน้อยหากการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมีค่าปรับรัฐบาลจะได้นำเงินส่วนนี้ มาเป็นส่วนหนึ่งของค่ายา

ส่วนกรณีที่หญิงสาวชาวไทยทำงานที่ประเทศเมียนมาร์ ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อนุทิน ระบุว่ากระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่รักษา อยากตั้งคำถามกับตัวเองอยากตั้งคำถาม ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อกระทรวงสาธารณสุขรักษาหายแล้ว ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ลักลอบกระทำความผิดหรือไม่ เพราะทำให้ประเทศเสียหาย เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมมองว่าใครมีหน้าที่อะไรก็ไม่ทำ ขออย่าห่วงเรื่องมนุษยธรรม กระทรวงสาธารณสุขช่วยเหลือเต็มที่