หากเอ่ยชื่อ ‘เด่นคุณ งามเนตร’นักแสดงหนุ่ม วัย 25 ปี กับฝีมือทางการแสดงในอดีต หลายคนอาจจะไม่ประทับใจในฝีมือการแสดงของเขามากนัก แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะมีผลงานอะไร กลับกลายเป็นที่จับตามอง และได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย อย่างล่าสุด บทบาทไอ้มิ่ง ในละครทุ่งเสน่หา ตัวละครผู้น่าสงสาร ที่ไม่สมหวังในความรัก ที่โลกออนไลน์ต่างชมฝีมือการแสดงของเขา ที่เปลี่ยนไป เข้าถึง และเรียกน้ำตาจากผู้ที่ได้ชม
วอยซ์ออนไลน์มาพูดคุยกับ ‘เด่นคุณ งามเนตร’กับ 10 ปี ในวงการบันเทิง เขาเล่าว่า ครั้งแรกที่ได้มาเริ่มอาชีพนักแสดงตอนอายุ 15 ปี กับภาพยนตร์ เรื่อง ฮักนะสารคาม ก่อนจะได้มาเล่นละครทางช่อง 3 หลบผีผีไม่หลบ ,เพลิงฉิมพลี ที่แจ้งเกิดจนเป็นที่รู้จัก และขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัว ใน หวานใจกับนายกระจอก ที่ชีวิตตอนนั้นเข้าวงการมาด้วยความคิดว่า เป็นดารา คือ ความหล่อ ความเท่ ความกล้าม เพ้อฝัน และมีชื่อเสียงเงินทอง
“ต้องบอกก่อนว่าทุกวันนี้ย้อนไปดูยังเกลียดตัวเองเลย แต่เห็นตัวเองในปัจจุบันก็มีความภาคภูมิใจ ครั้งแรกคือเราเป็นเด็กต่างจังหวัด เด็กต่างจังหวัดมันไม่คิดอะไรเยอะ ไม่มีอะไร ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ มีแต่ความฝัน มีแต่ความเพ้อฝัน เพ้อฝันอย่างเดียว ว่าจะเป็นดารา มีชื่อเสียงมีเงินทอง มีคนรู้จัก มีคนรักมีคนชอบ สิ่งแรกที่คิดได้ ตอนเป็นนักแสดงช่วงนั้น มีแต่ความหล่อความสวย ความงามความเท่ ความกล้าม เมื่อก่อนผมเล่นฟิตเนส ผมจริงจังฟิตเนสได้มากกว่าการแสดง เป็นความหลง ความลุ่มหลงของคน พอเล่นเพลิงฉิมพลี ก็ต้องบอก ก็ต้องขอบคุณก่อนที่บอกว่า คนตำหนิเยอะ ก็ต้องขอบคุณเขาแหละ แรงผลักดันอีกแรงผลักดันหนึ่ง ก็ตอนนั้นชีวิตที่แบบว่า แย่เหมือนกัน ถามว่าหงุดหงิดกับคำด่าไหม มันก็ต้องหงุดหงิดอยู่แล้ว ไม่ต้องมาโกหกหรอก แบบว่าขอบคุณนะครับ ที่เป็นแรงผลักดันให้ผม ไม่ต้องโกหก มันก็แบบหงุดหงิดบ้าง แต่มันช่วย ๆ”
เข้าวงการมาได้ไม่เท่าไหร่ เด่นคุณ ก็ได้รับฉายาจากคนในวงการบันเทิง และเรียกขานอยู่เสมอ ด้วยพฤติกรรมที่มักหลุดกรอบ กับฉายาที่ว่า เด่นคุณ งามหน้าเขายอมรับว่า ตอนนั้นมองว่าฉายานี้คงเกิดจากความเอ็นดู แต่นานๆไป ถึงเข้าใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คนชื่นชม และรู้สึกไม่ตลกกับฉายาดังกล่าว
“เมื่อก่อนฟังดูน่ารักนะ รู้สึกตัวเองมีแต่คนรัก แต่มันไม่ใช่ มันไม่ใช่สิ่งที่ดี แล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่คนชื่นชม เป็นสิ่งที่คนให้เราเป็น เด่นคุณ งามหน้า ผมเลือกที่จะไม่ไปบอกคนว่า เราไม่ตลกกับสิ่งที่นายพูดแบบนี้ แต่ ณ จุดนั้น ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้รู้สึกว่า เราจะทำให้คนแบบว่า พูดคำนั้นได้แต่ไม่เต็มปาก มันเป็นแรงของการเติบโตมากขึ้น ได้เห็นสิ่งอย่างอื่นมากขึ้น แล้วก็เป็นแรงที่บอกว่า เราจะทำผลงานไทยให้ได้ดีที่สุด ให้ได้ดีมากที่สุด มันไม่ใช่แบบว่าจะต้องเป็นซุปตาร์ จะต้องเป็นคนดัง ผมจะเป็นตัวละครให้ได้มากที่สุด เป็นนักแสดงจริงๆ ไม่ต้องห่วงหล่อ ห่วงสวย เราเริ่มมีความฝันที่จริง ๆ ความฝันที่จริง ๆ ของผม ก็คือ ละครเรื่องนี้จะเปิด อุ้ย!เด่นคุณเล่นนะ เรื่องนี้ มันต้องดีมากแน่ ๆ”
ซึ่งเขาได้พิสูจน์ให้ผู้ชมได้เห็นพัฒนาการการแสดงที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่ละคร กรงกรรม กับบท พี่ก้าน จนมาถึง ไอ้มิ่ง ใน ทุ่งเสน่หา ที่เรียกรอยยิ้ม และน้ำตาจากผู้ชม เมื่อตัวละครต้องเจอเรื่องราวต่าง ๆในชีวิต แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาภูมิใจที่สุด
“มันดีใจในช่วงเวลาอ่านคอมเมนท์ ถามว่ามานั่งดีใจเป็นตุเป็นตะมันไม่ได้หรอก เพราะว่าสุดท้ายนักแสดงมันไม่มีที่สิ้นสุด มันโตเรื่อย ๆ เดี๋ยวต้องเก่งกว่านี้อีก เราลงไม่ได้ ถ้าลงก็คือ ไม่ได้หมายถึง ความดังลดลงนะ หมายถึงความแบบเก่ง ฝีมืออะไรแบบเก่งลดลง ก็ไปทำอย่างอื่นแล้ว นักแสดงทุกวันนี้สำหรับผม ผมตีสั้น ๆ ล่ะกัน ขายวิญญาณ ขายตัวเอง ทิ้งตัวเอง เป็นใครก็ไม่รู้วัน ๆ สร้างมันใหม่เป็นตัวละครให้ได้มากที่สุด เป็นได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่ตัวเราทำแค่นั้น ผมเห็นจุดบอด อย่างเช่น เรื่องกรงกรรม จุดบอดก็เยอะ ไม่ใช่ไม่เยอะ ทุ่งเสน่หา จุดบอดมีไหม มีแต่น้อยลง ซึ่งผมรู้สึกไม่พอใจในการใช้สายตาของตัวละคร สายตาล่อกแล่กแย่มาก แต่ดีที่ความรู้สึกมันเป็นความรู้สึกจริง ๆ อยู่ แต่สายตาล่อกแล่กเนี้ย คุณคิดอะไรอยู่เข้าใจไหม คือคิดอะไรอยู่ ผมไปตีโจทย์ว่า ตัวมิ่งขวัญ ไม่กล้าสบตาคนอื่น แต่มันเกินไป มันแบบว่ามันไม่ใช่เป็นการสร้างขึ้นมานะ แต่มันคือความรู้สึกที่แบบว่า คือเกินไป คือเยอะเกินไปมากกว่า ค่อย ๆ โต ผมเชื่อว่าในอนาคตผมต้องเก่งกว่านี้เรื่อย ๆ”
ความคิด มุมมอง ที่เปลี่ยนไป ของ เด่นคุณ ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหน แต่เขาจำได้ว่า การที่เขาเจอผู้คนมากมาย สังคมที่กว้างขึ้น ทำให้เขาโตขึ้น รวมถึง การมีความรัก กับ แกรนด์ เดอะสตาร์ ที่เขารู้สึกว่า อยากจะทำตัวเองให้ดีขึ้น
“เขาก็เป็นส่วนหนึ่ง เรารู้สึกว่าเขาดี ความเป็นผู้ชาย ไม่ใช่แบบว่าไปเที่ยวเสเพล เขาดี เราไม่เห็นดี เราสู้เขาไม่ได้เลย ความเป็นผู้ชายจริง ๆ ต้องสู้ครับ ต้องทำยังไงก็ได้ให้อยู่ในระดับเขา หรือเราอยู่ระดับสูงกว่าเขา เพราะเราเป็นผู้ชายเป็นผู้ชายเป็นผู้นำ เราจะมาอ่อนกว่าเขาไม่ได้ เธอเราไม่ไหวแล้วนะ มานั่งอ่านคอมเม้นท์มีแต่คนด่าเธออย่างนี้ เราคบกับเธอไป พูดตรง ๆ นะ ถ้าสมมติว่าผู้หญิงเป็นแฟนผู้ชายแล้วมาเจอผู้ชายแบบแย่ ๆ เลิกไปเลย ไม่ผิด”
10 ปีในวงการบันเทิง กับหลากหลายผลงาน เมื่อถาม เด่นคุณว่า ละครเรื่องไหน ภูมิใจและอยากให้คนพูดถึง เขาตอบคำถามที่ฉีกแนวไป คือ “ละครเรื่องต่อไป ต่อๆไป”เพราะเมื่อเขาแสดงเรื่องใดจบ เขาจะตัดทิ้งมันออกไป แล้วมาย้อนดูผลงาน มองดูจุดอ่อน เพื่อนำไปปรับปรุง ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เขายังได้รับโอกาสในการไปแสดงซีรีส์ต่างประเทศ เรื่อง Burado ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นซีรีส์แนวแอคชั่น แต่หากฝันสูงสุด เด่นคุณ เผยว่า เขาอยากไปแสดงซีรีส์เกาหลี เพราะเขาได้ติดตาม และมองเป็นความท้าทายทางการแสดง
ความพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง และไม่ย่อท้อ ทำให้ เด่นคุณ ในวันนี้ ยังเป็นนักแสดงรุ่นพี่ เป็นไอดอลของนักแสดงรุ่นใหม่ ในช่อง3 เขาพูดอย่างถ่อมตัวว่า เพราะผมไม่ถือตัว ทำให้น้องๆ สามารถเข้าถึงและมาพูดคุยกับเขาได้
“ผมแบบไม่ถือตัวไงอย่างช่อง3 เขาจะมีกลุ่มแก๊งแต่ผมเข้าได้หมดผมไม่ได้มีแก๊งมีอะไรผมก็อยู่คนเดียวตามสไตล์ชอบอยู่คนเดียวคุยได้กับทุกคนเคยหลงคิดนะถ้าเราเป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่คงเท่นะอย่างแบบอย่างหลายๆ คนพี่ๆ ชอบพี่เด่นพี่เด่นเขาแบบว่าถึงไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแต่เขาชอบเราดูน่ารักดีนะพวกน้องๆถ้าเข้ากองอีกแบบหนึ่งเลยน้องๆจะแกล้งผมผมก็แกล้งเขาแหละเขาก็เลยแกล้งคืนผมไม่ได้แข่งกับใครผมแข่งกับตัวเองตลอดเวลาผมก็เลยไม่ได้มาว่ารุ่นใหม่มารุ่นเก่ามาอะไรแบบนี้ไม่สนใจ”
“ชีวิตผมมันไปเรื่อยๆ ที่มันไม่ได้แบบว่าปังปังปังไปเรื่อยๆก็ต้องพูดก่อนว่าถ้าไม่หน้าตาดีก็ไม่เป็นนักแสดงหรอกแต่ไม่ได้ขนาดนั้นไม่ได้สูงไม่ได้ขาวแต่ สิ่งที่ชนะใจคนได้ก็มีแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวคุณภาพทำให้เรามีจุดยืน คนยอมรับได้คุณภาพเท่านั้นจะทำให้เห็นเอง จะทำให้ทุกคนชอบในตัวละคร แต่ละตัวของผมที่ผมสร้างขึ้นมา ถ้าเราก้าวข้ามสิ่งที่น่ากลัวไปได้เราจะเจอกับความสวยงามบางอย่าง