เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้องสวดภาวนา 'มาร์วานี' ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโดมแห่งศิลา (Dome of the Rock) และมัสยิดอัลอักซอ บริเวณเนินพระวิหารของกรุงเยรูซาเลมฝั่งตะวันออก อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญทางประวัติศาสตร์แก่ทั้งผู้นับศาสนาอิสลามและศาสนายูดาห์ โดยเหตุเกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 15 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่นอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทั้งยังไล่เลี่ยกับเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นกับมหาวิหารนอเตรอดามในกรุงปารีสของฝรั่งเศส 

บัญชีทวิตเตอร์ของสำนักข่าวรัฐบาลปาเลสไตน์เผยแพร่ภาพเหตุเพลิงไหม้บริเวณมัสยิดอัลอักซอ แสดงให้เห็นว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามช่วยกันดับไฟและระงับเพลิงไหม้ แต่ควันไฟไม่ได้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ และใช้เวลาไม่นานก็สามารถควบคุมเพลิงได้ และไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด

เว็บไซต์เยรูซาเลมโพสต์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเยรูซาเลมฝั่งตะวันออก จะเร่งตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเป็นฝีมือของเด็กๆ ที่จุดไฟเล่นจนลุกลามเกิดความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีแห่งปาเลสไตน์ ได้ออกมาเตือนผู้ที่คิดจะโจมตีหรือก่อกวนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเยรูซาเลมตะวันออก ให้งดเว้นจากการกระทำดังกล่าว พร้อมย้ำว่า สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญทั้งในแง่ของศาสนาและประวัติศาสตร์ ซึ่งมีคุณค่าอย่างมหาศาลต่อมนุษยชาติ 

ทั้งนี้ ห้องสวดมาร์วานีเคยถูกเรียกว่า 'โรงม้าของกษัตริย์โซโลมอน' โดยอ้างอิงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่บ่งชี้ว่าบริเวณเนินพระวิหาร หรือ Temple Mount (เทมเพิลเมาท์) ในย่านเมืองเก่าของกรุงเยรูซาเลมฝั่งตะวันออก เป็นโบราณสถานที่สำคัญของทั้งชาวมุสลิมและชาวยิว

(มุมมองจากฝั่งอิสราเอลสามารถเห็นโดมแห่งศิลาและมัสยิดอัลอักซออยู่หลังกำแพงตะวันตกของเยรูซาเลม/ AP)

ปัจจุบัน เนินพระวิหารส่วนหนึ่งอยู่ในความดูแลร่วมกันระหว่างรัฐบาลปาเลสไตน์และรัฐบาลจอร์แดน ซึ่งเคยเป็นผู้ปกครองดินแดนส่วนดังกล่าว ก่อนจะเสียสิทธินั้นให้กับอิสราเอลไปในปี 1980 แต่มีการเจรจาต่อรองกันหลายครั้งในเวลาต่อมา ทำให้ปาเลสไตน์ได้รับสิทธิร่วมดูแลพื้นที่บริเวณดังกล่าว 

นอกจากนี้ นิวส์วีค สื่อของสหรัฐอเมริกา รายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีอับบาสยังได้แสดงความเสียใจต่อรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งต้องรับมือกับเหตุเพลิงไหม้มหาวิหารนอเตรอดาม ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ประวัติสาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยระบุว่า ชาวปาเลสไตน์ร่วมส่งกำลังใจให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวฝรั่งเศส

ที่มา: Jerusalem Post/ Newsweek

ภาพปก: Cole Keister on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• 'ปาเลสไตน์-อิสราเอล-อาร์เจนตินา’ สนามฟุตบอลและความขัดแย้งในนครศักดิ์สิทธิ์
• "ย้ายสถานทูตไม่ช่วยสร้างสันติภาพ" นานาชาติประณามสหรัฐฯ-อิสราเอล หลังเหตุนองเลือดกาซา