พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงเหตุน้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ตนไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ และไม่โทษใคร แต่ปริมาณฝนเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตกหนักมากจริงๆ สูงสุดถึง 133 มิลลิเมตร และอีกส่วนหนึ่งมาจากปัญหากระแสไฟฟ้าที่อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อขัดข้อง ซึ่งอุโมงค์ดังกล่าวทำหน้าที่ในการช่วยสูบน้ำครอบคลุมพื้นที่ 5-6 เขตของกรุงเทพฯ ชั้นใน ส่งผลให้หลายพื้นที่น้ำท่วมขังและกระทบต่อประชาชนอย่างมาก
แต่เมื่อดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ก็สามารถสูบน้ำจนแห้งภายใน 20-30 นาที อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ประสานการไฟฟ้านครหลวงขอให้จัดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ มาประจำที่อุโมงค์ระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำทุกวัน เพราะหากเกิดปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ กทม.จะจัดหาเครื่องสำรองไฟฟ้าเพื่อให้กำลังไฟสำรองเพียงพอสำหรับการเปิดเดินเครื่องสูบน้ำของอุโมงค์บางซื่อ ซึ่งต้องใช้เครื่องขนาดใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันเรามีเครื่องสำรองกำลังไฟสูงสุดเพียง 1,000 โวลล์เท่านั้น ซึ่งตนได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำไปศึกษาแนวทางแก้ปัญหาและความเป็นไปได้ในการจัดหาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองที่สามารถรองรับการใช้งานของอุโมงค์บางซื่อที่ต้องใช้กำลังไฟจำนวนมาก เพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งไม่เฉพาะที่อุโมงค์บางซื่อเท่านั้น แต่รวมถึงอุโมงค์ระบายน้ำอื่นๆ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร ที่กำลังจะก่อสร้าง รวมถึงสถานีสูบน้ำต่างๆ ก็ต้องมีแผนรองรับเรื่องไฟสำรองเช่นกัน
"หลายท่านอาจจะตั้งคำถามว่า การก่อสร้างอุโมงค์บางซื่อทำไมไม่มีระบบสำรองจ่ายไฟฟ้า หรือเครื่องปั่นไฟ เนื่องจากในช่วงเริ่มต้นโครงการก่อสร้างในยุคนั้น มีความเห็นว่าการส่งกระแสไฟฟ้าจาก 2 สถานีย่อยของการไฟฟ้านครหลวง เพื่อเดินเครื่องสูบน้ำทั้ง 6 ตัว ไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้นพร้อมกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องปั่นไฟ ส่วนการขุดลอกคูคลอง กทม.ดำเนินการมาตลอด และทำต่อเนื่องกันมาทั้งปีครับ ไม่ใช่เพิ่งจะมาเริ่มทำช่วงหน้าฝน ผมก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ผมพยายามทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน" พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ