คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25-26 ก.ค. 2562 โดยระบุว่า นายกฯจากประชาธิปไตยต้องไม่กลัวการอภิปราย อาการกลัวเป็นเอามาก ตั้งแต่ออกมาประกาศว่าฝ่ายค้านไม่ควรอภิปรายคุณสมบัตินายก ไปจนถึง ฟอร์มทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ไว้ถึง 60 คน คำถามก็คือ ถ้าไม่ด่างพร้อย จะกลัวอะไรกันหนักหนา
ขณะที่วันก่อนศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัย คุณสมบัตินายกรัฐมนตรีว่าสิ้นสุดลงเฉพาะตัวปมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ตลกร้ายสำหรับคนไทย ที่มีนายกฯ ที่ไม่สามารถบอกสถานะตัวเองได้ เวลาได้ประโยชน์ก็บอกว่า ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เวลาเสียประโยชน์ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างเรื่องเหมืองทองอัคราที่บอกว่าดิ้นกันใหญ่ ก็เพราะมีองครักษ์พิทักษ์นายกบางคนบอกว่า เมื่อศาลมีมติรับวินิจฉัยในเรื่องนี้แล้ว 7 พรรคฝ่ายค้านก็ไม่ควรถือเอาประเด็นนี้เป็นเรื่องถกเถียงในวันแถลงนโยบายรัฐบาล
"ดิฉันขอยืนยันว่าฝ่ายค้านอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ และรมต. ได้ และจะอภิปรายด้วย องค์รักษ์พิทักษ์นายกฯ ทั้งหลาย เตรียมตัวได้เลยค่ะ ทำไมคุณสมบัตินายกฯและรัฐมนตรีจึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านโยบายที่จะแถลงต่อสภา เพราะวันนี้ประชาชนทั้งประเทศเปรียบเหมือนผู้โดยสาร นั่งอยู่บนรถบัสคันหนึ่ง สิ่งที่เราคาดหวังก็คือ คนขับรถให้กับเราต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย มีความสามารถเพียงพอ ที่จะนำพาประชาชนหรือผู้โดยสารทั้งคันรถไปสู่เป้าหมายได้โดยสวัสดิภาพ และอยู่รอดปลอดภัย"
ดังนั้นในแง่นี้ คุณสมบัติของคนขับรถจึงสำคัญ เพราะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารทั้งคันรถ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและคุณภาพของคนขับรถ ไม่ใช่อยู่ๆ ก็เอาปืนมาขู่คนขับที่มาตามกฎหมายให้ลงจากรถ และไปเอาคนขับซาเล้งที่ไม่มีใบอนุญาตขึ้นมาขับรถบัสแทน และถ้านายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรีใหม่ทั้งคณะ ไม่มีคุณสมบัติด่างพร้อย และมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฏหมาย ไม่ต้องกลัวการอภิปราย และไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ใดๆ แต่บางคนอาจจะชินกับการทำเรื่องผิดกฏหมายให้ถูกกฎหมาย ด้วยการตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย
"ดิฉันอยากเห็นชายชาติทหารยืนตอบคำถามของ 7 พรรคฝ่ายค้านอย่างองอาจด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอคอยการช่วยเหลือจากบรรดาลิ่วล้อ องครักษ์พิทักษ์นายกฯ ที่ตระเตรียมไว้หลายสิบคน เพราะถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว" สุดารัตน์ ระบุ