นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงหลังเปิดทดลองสอนระบบออนไลน์เตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนวันนี้ (18 พ.ค.2563) ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมของเด็กก่อนเปิดเทอมเท่านั้น แต่ยืนยันการเรียนทั้งหมดจะต้องเรียนในโรงเรียน และเริ่มในวันที่ 1 ก.ค. เว้นแต่ บางพื้นที่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังมีความน่าเป็นห่วงก็จะใช้วิธีการสอนผ่านระบบออนไลน์ต่อไป
ขณะเดียวกัน การเรียนการสอนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จะเรียนควบคู่ ทั้งห้องเรียนและออนไลน์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมเข้าถึงอุปกรณ์ แต่มีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ไม่มีอุปกรณ์ ซึ่งโรงเรียนจะต้องไปการสอนเสริมทักษะที่โรงเรียนแทน เพื่อให้ได้ความรู้สองทางเท่ากับคนอื่น
ส่วนสาเหตุที่ล่ม หลังจากเปิดการเรียนการสอน เป็นเพราะผู้ปกครองใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งมากกว่าการเปิดผ่านโทรทัศน์ ซึ่งไม่เหนือความคาดหมายที่ทางกระทรวงคาดไว้ โดยได้เตรียมแผนมาแก้ปัญหานี้แล้ว ทั้งนี้จะเสนอ ครม.ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายหากผู้ปกครองเลือกใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเรียนมากกว่าเปิดดูโทรทัศน์ โดยจะหากล่องสัญญาณจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จำนวน 2 ล้านกล่องไปแจกครอบครัวที่ขาดแคลน แต่ยืนยันว่าไม่แจกแท็บเลตแน่นอน เพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณ
พร้อมยืนยันว่าแม้นักเรียนจะไม่มีอุปกรณ์ใช้ สำหรับการเรียนผ่านระบบออนไลน์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินศักยภาพ เพราะเชื่อว่าครูผู้สอนจะประเมินความสามารถของนักเรียนได้ ขณะเดียวกันหากมีความจำเป็นครูผู้สอนต้องติดตาม และประเมินว่าเด็กนักเรียนในชั้นเรียนได้เรียนผ่านระบบออนไลน์หรือไม่ ซึ่งอาจจะให้ผู้ปกครองรายงานผลหรือครู ทำระบบการเช็กชื่อการเข้าเรียนควบคู่ไปด้วย