นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปในส่วนของตัวมาตรการทั้งหมด เนื่องจากมีรายละเอียดและข้อเสนอบางส่วนที่จะต้องนำกลับไปทบทวนถึงความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะในบางมาตรการจะต้องมีการใช้เงินงบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ก้อน 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ในหลักการของมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศเบื้องต้นจะดำเนินการในระยะเวลา 4 เดือน คือ ระหว่างเดือนก.ค.–ต.ค.2563 โดยจะเป็นมาตรการให้กับคน 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก คือ บุคลากรทางการแพทย์ในการปฎิบัติงานรับมือโควิด-19 อาทิ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน

ส่วนอีกกลุ่มคือประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยอาจจะให้เป็นบัตรกำนัลดิจิทัล สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ ททท. ได้มีการเสนอแจกเงินเที่ยวคนละ 2,000 - 3,000 บาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ ใช้เป็นส่วนลดในการเข้าพักที่เข้าร่วมกับโครงการที่จะออกมา เพื่อสนับสนุนให้ท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศที่ 4-5 แสนล้านบาท จากรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด 1.23 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายยุทธศักดิ์ ระบุว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่ได้สรุปรายละเอียดทั้งหมด แต่ยอมรับว่า แนวทางการแจกเงินเที่ยวจะยังมีอยู่ แต่ไม่ใช่การแจกเงินให้เปล่า ยืนยันว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะพิจารณามาตรการทั้งหมดแล้วเสร็จเพื่อรีบนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป

ส่วนแนวทางที่เป็นมาตรการทางด้านภาษี ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนำมาหารือในชุดมาตรการข้างต้น แต่ยอมรับว่า อาจจะเป็นมาตรการที่จะนำมาพิจารณาร่วมด้วยในลำดับถัดไป

อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องขอความร่วมมือประชาชนที่จะออกไปเที่ยว ต้องมีการจองก่อนเที่ยว เพื่อลดความแออัด และไม่ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้นเหตุให้เกิดการระบาดของโควิด-19 รอบสอง ส่วนกรณีบางแสนในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีคนเดินทางไปมากนั้น เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะเป็นช่วงวันหยุด และเป็นสถานที่ที่ไม่ไกล ดังนั้น ททท.อาจจะต้องมีการหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ว่าจะวางแผนรับมือนักท่องเที่ยวจากนี้อย่างไร

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวขณะนี้ ถือว่าดีขึ้นเมื่อพิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา แม้ว่าบางพื้นที่โรงแรมจะยังไม่เปิดให้บริการ ซึ่งจะเปิดในช่วงก.ค.แต่บางพื้นที่ที่เปิดแล้วเช่น พัทยา หัวหิน ก็มียอดจองโรมแรมไปแล้วกว่าร้อยละ 70 ซึ่งคนไทยพร้อมที่จะเดินทางไปเที่ยวแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• กสิกรไทยประเมินจีดีพีปี 63 ติดลบร้อยละ 6 ชี้ 'ท่องเที่ยว-รถยนต์-อสังหา' ฟื้นช้า
• คลังคาด รบ.เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วงหยุดชดเชยสงกรานต์ จ่อกระตุ้นท่องเที่ยวรับหยุดยาว ก.ค.
• ก.ท่องเที่ยวฯ ตั้งคกก.เยียวยาโควิด เสนอมาตรการครอบคลุมทุกด้าน
• ททท.ชงแผนฟื้นฟูท่องเที่ยวรับ 'New Normal' ขอเจียดงบเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท
• เปิดทางผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวขอรับคืนเงินหลักประกัน 70% ของวงเงิน
• กระทรวงคลัง-ท่องเที่ยวฯ เข็น 'ชิมช้อปใช้ เฟส2-100เดียวเที่ยวทั่วไทย' ปลุก ศก.สิ้นปี
• พร้อมหรือยัง? “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย-เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก” เปิดจองสิทธิ์-เช็กแพคเกจ 1 พ.ย.นี้