วันที่ 2 มิ.ย. ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตบางซื่อ-ดุสิต ในฐานะประธานนโยบายสตรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง กรณีฝ่ายค้านโจมตีนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้เมื่อครั้งเลือกตั้ง 62 ว่า ก็ผลักดันอยู่ การเพิ่มค่าจ้างหรือค่าแรง ปรับเกณฑ์การลดหย่อนภาษีตามสภาพเศรษฐกิจและวิกฤติโควิด-19 มารดาประชารัฐดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ เพิ่มสวัสดิการเงินสงเคราะห์บุตร เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เงินสงเคราะห์หญิงยากไร้และไร้ที่พึ่ง ดูแลราคาสินค้า และอีกหลายโครงการที่ให้สิทธิสวัสดิการและความเท่าเทียมมากขึ้น มัน on process ตามที่ตั้งเป้า เพราะมันเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณที่ต้องรับผิดชอบกันทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล’
ธณิกานต์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านสามารถสนับสนุน ช่วยกันขับเคลื่อนผลักดันนโยบาย ด้วยการผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ เพื่อให้การบริหารประเทศไม่สะดุด ประชาชนได้รับการดูแลและได้ประโยชน์ในวงกว้าง เพราะทุกๆนโยบายต่างคิดมาในการแก้ไขปัญหาและดูแลคนไทยทั้งสิ้น
ธณิกานต์ กล่าวถึง กลไกและกระบวนการทำงานขับเคลื่อนประเทศ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่กำหนดไว้ว่า ก่อนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเข้ามาบริหารแผ่นดินจะต้องมีการแถลงนโยบายกับรัฐสภา นโยบายจากพรรคการเมืองต่างๆ อาจถือเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบนโยบายประเทศ มีผลผูกพันที่ทำให้ ครม. ชุดนั้นต้องปฏิบัติตาม และต้องรับผิดชอบร่วมกันในการปฏิตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา
ดังนั้นการผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นไปเพื่อให้ฝ่ายบริหารได้ทำงานตามแผนงานที่แถลง แต่ถ้าฝ่ายบริหารทำไม่ได้ก็จะมีกลไกของฝ่ายนิติบัญญัติมาจัดการ เช่น การตั้งกระทู้ถาม หรือ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ การตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ