ไม่พบผลการค้นหา
"รบกวนหาข้อมูลเพิ่มด้วย!" 'แพทองธาร' สวน 'ภูมิใจไทย' กล่าวหาลอกนโยบาย ชี้ 'เพื่อไทย' เป็นต้นฉบับจะลอกได้ไง ไม่หวั่น ครม. ไฟเขียวงบผูกพันรัฐบาลหน้า เชื่อทำได้ดีกว่า-หาเงินเป็น

วันที่ 8 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร พูดในรายการคลับเฮ้าส์ ว่าหากการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566 จริง ก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเลยกำหนดคลอดของ แพทองธาร 

โดย แพทองธาร ระบุว่า ตนได้มีการพูดคุยกับคุณพ่อ ก่อนที่จะออกรายการคลับเฮ้าส์เมื่อคืนแล้ว ซึ่งหากเป็นวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค. จริง ตนเองก็จะได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ซึ่งกำหนดคลอดอยู่ในช่วงปลายเดือน เม.ย.หรือต้นเดือนพ.ค. พร้อมยอมรับว่าไม่อยากคลอดในวันเลือกตั้ง เพราะกลัวจะไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์ 

พร้อมระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายผลักดันเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงบัตรสวัสดิการของพรรคเพื่อไทย ที่ ทักษิณได้กล่าวในรายการ คลับเฮ้าส์เมื่อคืนนี้ ว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็จะทำได้ดีกว่าพรรคอื่น และย้ำว่าพรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น ซึ่งนโยบายแต่ละอัน มุ่งหวังให้ประชาชนทั้งประเทศอยู่ดี กินดีขึ้น 

แพทองธาร ยังตอบโต้กรณี ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวว่า มีพรรคการเมืองใหญ่ลอกนโยบายพักชำระหนี้ของพรรคภูมิใจไทย 

โดย แพทองธาร ระบุว่า "พรรคเพื่อไทยไม่สามารถลอกนโยบายที่เราเป็นผู้ริเริ่มได้ เพราะต้นฉบับของนโยบายดังกล่าวมาจากพรรคเพื่อไทย รบกวนหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย” 

เมื่อถามถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบผูกพันปี 2567 เกือบหมื่นล้าน จะส่งผลเป็นภาระผูกพันไปถึงรัฐบาลต่อไปหรือไม่ แพทองธาร ระบุว่า ทุกงบที่สืบเนื่องมา จำเป็นต้องจัดการ แต่พรรคเรามีผู้มีความรู้ความสามารถอยู่แล้วเรา ต้องประชุมกันทั้งหมดเพื่อให้ภาษีของประชาชนเป็นประโยชน์มากที่สุด นั่นคือใจความสำคัญ

ด้าน นพ.ชลน่าน ชี้ว่า เรื่องงบประมาณแบ่งเป็น 2 ส่วน คืองบผูกพันในลักษณะก่อหนี้ และสืบเนื่องไปยังอนาคต อีกส่วนคืองบผูกพันตามข้อกฎหมาย เช่นสวัสดิการ ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลที่เข้ามารับช่วงต่อไม่ว่าเป็นรัฐบาลไหน ก็ต้องดำเนินการตามนั้น 

"อย่างการอนุมัติเพิ่มค่าป่วยการ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครกรุงเทพมหานคร (อสส.) จากเดิมเดือนละ 1,000 บาท เป็น 2,000 บาทต่อคน ก็เป็นข้อผูกพันตามกฎหมาย รัฐบาลต่อไปต้องมารับภาระ โดยสำหรับพรรคเพื่อไทยเองไม่ห่วง สามารถดำเนินการได้ และทำได้ดีกว่าด้วย เพราะเราหาเงินเป็น" นพ.ชลน่าน ระบุ