ยิ่งพลิกมาตรา 73 กฎหมายพรรคการเมือง พบระบุชัด ห้ามสวมหมวกข้าราชการเติมเงินพรรคการเมือง เป็นผลให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องขอ 30 วัน ตรวจสอบ พลังประชารัฐ (พปชร.) ด้วยความเป็นธรรม
ไม่เพียงเท่านั้น โลกโซเชียลต่างแชร์ให้ว่อน เมื่อหนุ่มยโสธร สุดทนโพสต์แฉ ลงทะเบียนบัตรคนจนพ่วงสมัครสมาชิก พปชร. แค่รอบสัปดาห์ส่งท้ายปีเก่า 2561 ยังขนาดนี้ ถ้าพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง ประกาศใช้ วันที่ 2 ม.ค. 2562 จะขนาดไหน
“ทัพหลวงฝ่ายประชาธิปไตย” อย่าง เพื่อไทย ก็ไม่นิ่งนอนใจ ศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามกลโกงการเลือกตั้ง จับตารอจังหวะระฆังหาเสียงดัง ก็ถอดบทเรียน สารพัดวิชามารกลโกงเลือกตั้ง พร้อมรับศึกกาบัตร ที่คาดกันว่า สกปรกไม่แพ้ยุค 2500 ไปพลาง
เพราะสถานการณ์บ่งชี้ชัดเจนว่า ฝ่ายเผด็จการได้มีการวางแผนและเดินงานอย่างเป็นขั้นตอนต่อการเอารัดเอาเปรียบ ที่จะนำสู่ชัยชนะของการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้ เริ่มตั้งแต่แต้มต่อในรัฐธรรมนูญ 2560 ให้บทเฉพาะกาลมี 250 ส.ว.แต่งตั้ง ร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ใช้ มาตรา 44 บังคับวิถี การแบ่งเขตเลือกตั้ง ยื้อเวลาจะเลื่อนเลือกตั้ง การบังคับหาเสียงเลือกตั้งให้เหลือเวลาน้อย การผ่อนปรนไพรมารีคัดตัวผู้สมัคร ส.ส.
โดยเฉพาะให้ 4 รัฐมนตรีสังกัด พปชร. ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปให้นานที่สุด ที่อาจเอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงให้กับพรรคการเมืองซีกรัฐบาลได้ ทำให้บรรยากาศสู่การเลือกตั้งไม่มีเสรีภาพ (Free) และเป็นธรรม (Fair) สร้างความหนักใจ และเป็นภาระกับซีกประชาธิปไตยอย่างมาก
สิ่งที่พรรคการเมืองซีกประชาธิปไตยจะต้องกังวลและหนักใจอย่างยิ่ง นั่นก็คือ 'สารพัดวิชามาร กลโกงการเลือกตั้ง' ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ตัวอย่างกลโกงการเลือกตั้งในอดีต มาเป็นกรณีศึกษาพอสังเขป ดังต่อไปนี้
กลโกงช่วงการเลือกตั้งล่วงหน้า
-สวมสิทธิ์ลงคะแนนแทน (เจ้าหน้าที่ไม่เข้มงวดหรือรู้เห็นเป็นใจ)
-เปลี่ยนแปลงบัตรลงคะแนน ช่วงการขนส่งทางไปรษณีย์
สารพัดวิชามารกลโกงช่วงเลือกตั้งและนับคะแนน
-การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน
-แอบหย่อนบัตรเลือกตั้งก่อนเวลา เอาผีมาลงคะแนน (เจ้าหน้าที่เป็นพวกเดียวกัน)
-โกงการขานคะแนน (เจ้าหน้าที่ช่วยโกง) ขานเบอร์ที่ได้คะแนนไม่ตรงกับบัตรที่กา
-นำคดีความมาบีบบังคับ ให้ช่วยผู้สมัครส.ส.ฝ่ายตน
-ไม่แคร์สายตาประชาชน นำนักการเมืองกลับมารับเลือกตั้ง
-ใช้อำนาจกฎหมายที่กลุ่มตนสร้างขึ้น หาเสียงให้เฉพาะพวกตนฝ่ายเดียว
-ใช้งบประมาณแจกจ่ายหาเสียงโดยตรง โดยไม่มีความละอาย
-มีพฤติกรรมเลื่อนเลือกตั้ง แบ่งเขตเลือกตั้ง ใช้อำนาจรัฐในการหาเสียง เพื่อให้ฝ่ายตนได้เปรียบ
-สร้างรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ
-การซื้อเสียงโดยการตอบแทนในรูปแบบของ คูปอง เงิน สิ่งของ ฯลฯ
-บังคับข้าราชการไม่ให้วางตัวเป็นกลาง
-ทุจริตปลอมบัตรประชาชน
-สวมสิทธิ์พวกมีสิทธิ์ลงคะแนน เวียนเทียนการลงคะแนน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่ายทหาร)
-ทำบัตรลงคะแนนให้เสีย เช่น จิกบัตร เมื่อไม่ใช่คะแนนของพวกตน
-ซื้อกกต.เขต และกกต.ประจำหน่วน ทำเป็นความลับส่วนบุคคล
-ทำให้เจ้าหน้าที่กกต.ไม่เป็นกลาง แทรกแซงตั้งแต่การคัดตัวเจ้าหน้าที่ข้าราชการในพื้นที่ และคนที่มีภูมิลำเนา ในพื้นที่เข้ามาปฏิบัติงาน ฯลฯ
หมายเหตุ : บุคลากรที่ร่วมกันให้เกิดการโกงเลือกตั้ง เกิดความสัมฤทธิ์ผลก็คือ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทีมงาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง รวมทั้งพี่้องประชาชน ที่อยู่ในกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเป็นเฉพาะผู้ที่ฝักใฝ่การทุจริต เห็นแก่อามิสสินจ้าง ขาดจิตวิญญาณสามัญสำนึกประชาธิปไตย
ดังนั้นการป้องกัน สกัดกั้นระงับยับยั้งกลโกงการเลือกตั้ง ฝ่ายปีกประชาธิปไตยก็ต้องช่วยกันระดมการเชิญชวน พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย เข้ามาจัดตั้งกลุ่มมวลชน ชมรมเพื่อการจับผิดกลโกงการเลือกตั้ง ตั้งรางวัลมอบให้แก่ผู้จับผิด เผยแพร่ความเลวร้าย และการกระทำผิดจากกลโกงการเลือกตั้ง ต่อสื่อสาธารณะให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้โดยทั่วไป และมอบพยานหลักฐานการกระทำผิดให้แก่ กกต. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป
"เลือกประชาธิปไตยหายอดยาก ลากเผด็จการชาติล่มจม"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง