พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. ว่าเรื่องการเมืองเคยพูดเสมอว่า ตนเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยซึ่งตนในฐานะนายกฯและหัวหน้าฝ่ายบริหารราชการแผ่นดินมีความรับผิดชอบในภาพรวม และตนก็เข้ามาด้วยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ โดยถูกเสนอชื่อโดยพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลเสนอชื่อตนขึ้นมา ผ่านการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ซึ่งหลายคนไปบิดเบือนว่า ส.ว.สืบทอดอำนาจให้ตนนั้น ถามว่าหากพรรคไม่มีคะแนนเสียงมากพอแล้วจะเสนอชื่อตนได้หรือไม่ ดังนั้นใครหรือพรรคใดคะแนนสูงแล้วเสนอรายชื่อนายกฯ ส.ว.ก็คงไม่มีปัญหา ซึ่งย้ำว่าตนยอมรับกติกาทุกอย่าง จึงอย่าเอาการเมืองมาพันทุกเรื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรรคพลังประชารัฐ ถูกกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ มีมติขับพ้นพรรคพร้อมส.ส.จำนวน 20 คน ว่า เป็นเครื่องของประชุมกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ เชื่อว่าเป็นการต้องการทำให้สถานการณ์ปกติให้มากที่สุด โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประชาชน ที่ต้องมองใครเป็นอย่างไร ดังนั้นขอให้ติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย ซึ่งตนไม่ได้กล่าวว่าใครดีไม่ดี แต่พฤติกรรมจะเป็นตัวกำหนด และให้ประชาชนคัดกรองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และยืนยันว่าตนไม่ได้คิดจะดำเนินการในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี หรือยุบสภาอะไรต่างๆ โดยเฉพาะขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่เรียบร้อย จึงอย่าเอาทุกอย่างมาตีทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนไม่ใช่คนที่จะพูดได้ว่ารักใครชอบใคร หลายอย่างต้องเก็บไว้กับตัว อย่างไรก็ตามขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่นและเชื่อถือที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ได้วางอนาคตไว้พอสมควรโดยเฉพาะแก้ปัญหาที่หมักหมม เป็นภาระของตนที่ทำให้การทำงานใหม่ๆ ออกมาได้ช้า โดยต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และข้าราชการด้วย ซึ่งตนลงเข้าไปลงรายละเอียดในทุกเรื่องอะไรติดขัดตรงไหนก็พร้อมสั่งการเพิ่มเติมให้ไม่เคยว่างเว้นการทำงาน
เมื่อถามว่าสรุปแล้วชัดเจนใช่หรือไม่ว่าจะไม่ปรับ ครม. ในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ส่งความรักความปรารถนาดีให้กัน เคารพซึ่งกันและกัน" ก่อนเดินขึ้นตึกไทยทันที