นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานศูนย์บัญชาการสถานการณ์ จังหวัดเชียงราย แถลงว่า การซ้อมใหญ่แผนอพยพและช่วยเหลือเยาวชน 13 ชีวิต ติดอยู่ภายในถ้ำเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าผลการปฎิบัติงานยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก เนื่องจากมีอุปสรรคความล่าช้า รถพยาบาลไม่สามารถวิ่งไปยังเป้าหมายได้ รถวิ่งไปผิดทางและรถของประชาชนยังกีดขวางทางเส้นทางจราจร อาจมาจากการจัดระเบียบการจราจรยังไม่ดีและคนขับรถพยาบาลอยู่นอกพื้นที่ไม่ชำนาญทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่สนามไม่ชำนาญการใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ซึ่งจะต้องแก้ไขเพราะหากเจอกลุ่มเด็กทั้งหมดจริงจะลำบาก
โดยยอมรับว่า ภารกิจการค้นหาหน้างานยากกว่าที่คิด หลายคนมีการนำเสนอทฤษฎีทั้งการนำโดรน นำหุ่นยนต์หรือโรบอทมาใช้ ซึ่งขณะนี้ทางเรามีโรบอทและเรือดำน้ำอยู่ที่หน้างานมากกว่า 10 ตัว แต่ไม่สามารถนำไปใช้งานได้ เพราะสภาพพื้นที่ไม่ไช่ทะเล ไม่ไช่คลองที่เป็นลำน้ำแบบเปิด แต่ช่องเล็ก แม้แต่ตัวคนยังผ่านไม่ได้และน้ำขุ่นมากจนมองไม่เห็น
อย่างไรตาม วันนี้ (30 มิ.ย.) แม้จะมีฝนตก แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายกว่าทุกวัน น้ำในถ้ำลดลงไปพอสมควร สามารถสูบน้ำในแต่ละโถงได้ทุกโถง หน่วยซีลสามารถทำงานได้สะดวกขึ้น
"ตอนนี้ต้องทำทุกทางที่จะให้น้ำพร่อง เพื่อนำน้องออกมาทางปากถ้ำเท่านั้น ส่วนแผนที่จะนำเด็กออกทางช่องทางอื่นๆ ยังไม่ได้คิด แต่เตรียมแผนไว้หมดแล้ว เพราะหากเจอเด็กในช่องอื่นๆ ต้องใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่เข้าไปประกบ และปฐมพยาบาลในพื้นที่ คงไม่นำออกโดยวิธีการโรยตัวออกทางปล่อง เพราะมีความเสี่ยงสูง ยิ่งช่วงนี้มีฝนตกและลมแรง" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า
ขณะที่ เจ้าหน้าที่เพิ่มการเจาะบาดาลเพิ่มอีก 1 จุด โดยใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะบริเวณแนวเขาด้านหน้าตู้ยามทางเข้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อหาตาน้ำใต้ดินเพื่อระบายน้ำออกจากถ้ำได้อีกทางหนึ่ง ภายหลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องเจาะน้ำบาดาลขนาดใหญ่เข้าเจาะพนังถ้ำแนวทะแยง แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากไม่พบตามน้ำ ทำให้ต้องหันมาเจาะในแนวดิ่งเช่นเดียวกัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้นำสายไฟฟ้าแบบชวนกันน้ำมาเพิ่มเติมเพื่อนำไปติดตั้งในถ้ำ เพื่อไม่ให้กระแสไฟรั่วลงน้ำสร้างความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน
กฟผ. ส่ง Power Main เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องสูบน้ำออกจากถ้ำ
ด้านนายบรรพต ธีระวาส ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านบำรุงรักษาไฟฟ้าของเหมืองแม่เมาะเร่งนำสาย Power Main ขนาด 4×50 ตารางมิลลิเมตร ความยาว 1,250 เมตร เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายกระแสไฟฟ้า สนับสนุนปฏิบัติการสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำนวยความสะดวกให้กับหน่วยปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 คน
โดยคาดว่าหากสามารถเชื่อมต่อสาย Power Main แล้วเสร็จ กระแสไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจาก 90 แอมป์ เป็น 150 แอมป์ ช่วยให้เครื่องสูบน้ำจำนวน 26 เครื่อง ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในถ้ำทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับสาย Power Main ที่นำมาจาก กฟผ. แม่เมาะ เป็นสายไฟที่ใช้สำหรับงานปั๊มภายในบ่อเหมืองแม่เมาะ ซึ่งเป็นสายไฟที่มีคุณสมบัติเฉพาะทนต่อกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าได้สูงถึง 8,000 กิโลโวลต์ มีความทนทาน สามารถกันน้ำได้ดีจึงปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมกับได้สนับสนุนเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า เครื่องสกัดคอนกรีต ปลั๊กพ่วง เชือกมะนิลา และกล้องงู (Borescope) สำหรับตรวจสอบวัตถุในที่แคบ
(ภาพจาก กฟผ.)
หมายเหตุ ภาพประกอบเป็นแผนซ้อมการเคลื่อนย้าย
ข่าวเกี่ยวข้อง :