ไม่พบผลการค้นหา
ผลการศึกษาพบว่า เด็กที่กินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งหรือมากกว่า จะทำให้การนอนดีขึ้นและผลทดสอบระดับเชาวน์ปัญญาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าเด็กที่ไม่กินปลาหรือกินน้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง

เว็บไซต์ CNN นำรายงานที่ได้รับการตีพิมพ์ใน The Journal Scientific Reports เกี่ยวกับผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในปลาหลากหลายชนิด เช่น แซลมอน ซาร์ดีน และทูน่านั้น มีส่วนช่วยทำให้ระดับความฉลาดและการนอนหลับดีขึ้น ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

จากการศึกษาเด็กชาวจีนมากกว่า 500 คน ที่มีอายุระหว่าง 9-11 ปี กับคำถามว่าพวกเขากินปลาจำนวนกี่ครั้งในเดือนที่ผ่านมา กับคำตอบให้เลือกคือ "ไม่เคย" กับ "อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง" ในเด็กอายุ 12 ปี ทำแบบทดสอบวัดเชาว์ปัญญาทักษะด้านภาษาและไม่ใช่ภาษา


edwin-andrade-153753.jpg

Photo by Edwin Andrade on Unsplash

ในกลุ่มเด็กที่บอกว่ากินปลาทุกสัปดาห์มีคะแนนวัดไอคิว 4.8 สูงกว่าเด็กที่ตอบว่าไม่กินปลาหรือกินน้อย โดยทีมนักวิจัยไม่ได้ถามเด็กๆว่าปลาชนิดไหนที่พวกเขากินบ้าง ในขณะที่กลุ่มที่ตอบว่าทานปลาไม่บ่อยมีคะแนนไอคิวอยู่ที่ 3.3

ส่วนคำตอบจากครอบครัวเด็กๆเกี่ยวกับคุณภาพการนอน พบว่า เด็กที่กินปลาเป็นประจำมีคุณภาพการนอนที่ดีกว่า เพราะไม่มีเรื่องรบกวนในระหว่างที่นอนหลับ 

ในข้อดีที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มนักวิจัยแนะนำไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองให้เพิ่มปลาเข้าไปในเมนูอาหารของเด็ก และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเนื้อปลาง่ายต่อการหั่นและมีกระดูกน้อย เด็กๆเริ่มกินปลาได้ตั้งแต่อายุเริ่ม 2 ขวบ

ปลา เป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยม เพราะในเนื้อปลามีโปรตีนที่ดีและอุดมด้วยไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักหรือไม่อยากเพิ่มไขมัน เพราะไขมันในปลามีน้อยกว่าไขมันจากสัตว์ชนิดอื่น และปลาบางชนิดยังมีโอเมกา 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ช่วยเพิ่มสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด พบได้ในปลาแซลมอน โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่อยู่ตามธรรมชาติจะมีวิตามินและแร่ธาตุสูงมาก