บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งอัตราค่าโดยสารใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2561 – 2 กรกฎาคม 2563 เพิ่มสถานีละ 1 บาท ณ จำนวนสถานีที่เดินทางที่ 5, 8 และ 11 นับจากสถานีต้นทาง
แต่เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐที่ต้องการแบ่งเบาภาระของผู้ใช้บริการ บริษัทจะคงใช้อัตราค่าโดยสารเดิม ไปอีก 3 เดือน ระหว่างวันที่ 3 ก.ค. -2 ต.ค. 2561
อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่ BEM จะยังคงใช้ไปจนถึง 2 ต.ค.61
จากก่อนหน้านี้ BEM ออกประกาศว่าจะมีการปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2561 - 2 ก.ค. 2563 โดยมีอัตราค่าโดยสารเต็มราคาเริ่มต้นที่ 16 บาท สูงสุด 42 บาท (อัตราค่าโดยสารปรับเพิ่มขึ้น 1 บาทจากเดิม ณ จำนวนสถานีที่เดินทางที่ 5, 8 และ 11 นับจากสถานีต้นทาง)
ประกอบกับในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่มีการอนุมัติในกรณีที่กระทรวงคมนาคมเสนอปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โดยพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำ เนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่า หากมีการอนุมัติให้ดำเนินการได้ จะต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาประมาณ 30 วัน ซึ่งจะทำให้เลยเวลาครบกำหนดในวันที่ 2 ก.ค.2561 ที่จะต้องมีการปรับราคาใหม่ ส่งผลให้รัฐบาลจะเป็นฝ่ายผิดสัญญาและอาจจะต้องเสียค่าปรับให้กับผู้รับสัมปทาน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ (รถร่วม) ขสมก. ได้ขอปรับขึ้นค่าโดยสารขึ้นอีก 4 บาท เนื่องจาก ผู้ประกอบต้องแบกรับต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซเอ็นจีวี ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง และที่ผ่านมา 4 ปีไม่ได้มีการปรับค่าโดยสารขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง
ในภายหลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ออกมายืนยันว่า จะยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถทุกประเภทในขณะนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงแล้ว ประกอบกับกรมการขนส่งทางบก อยู่ระหว่างการศึกษาปรับโครงสร้างค่าโดยสารระบบขนส่งใหม่ทั้งระบบ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือน จากนั้นจะมีการเรียกผู้ประกอบการมาหารือเพื่อรับทราบและหาแนวทางร่วมกันอีกครั้ง
ข่าวเกี่ยวข้อง :