ไม่พบผลการค้นหา
เมียนมาเจรจากับไทยเพื่อจะเดินหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งถูกชะลอมาตั้งแต่ปี 2556 เพราะ บ.อิตาเลียน ไทยฯ ถอนตัว และเมียนมาปลี่ยนรัฐบาล แต่ทางการไทยเชื่อว่า โครงการจะเริ่มมีความคืบหน้าในปีนี้

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับแชนแนลนิวส์เอเชีย (CNA) ถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ในเขตตะนาวศรีของเมียนมา หลังจากที่มีการพูดคุยกันระหว่างคณะกรรมการประสานงานร่วมไทย–เมียนมา (JCC) และคณะกรรมการร่วมระดับสูงไทย-เมียนมา (JHC) หลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา

ผลจากการเจรจาระหว่างไทยและเมียนมา ทำให้บรรลุข้อตกลงความเข้าใจระหว่างกันว่า จะแบ่งโครงการลงทุนเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะเป็นการก่อสร้างและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีอาณาเขตประมาณ 28.8 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะรวมพื้่นที่โรงงาน ท่าเรือขนาดเล็ก โรงไฟฟ้า และที่พักอาศัยของพนักงานประจำเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่วนเฟส 2 จะต้องวางแผนนโยบายการลงทุนและการออกแบบให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะขยายขนาดการลงทุน ซึ่งจะรวมถึงการสร้างพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และท่าเรือน้ำลึก

ซีเอ็นเอรายงานว่า รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการที่จะเดินหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายโดยเร็ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้อนุมัติในหลักการเกี่ยวกับวงเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน (ซอฟต์โลน) จำนวนกว่า 4,500 ล้านบาทเพื่อให้เมียนมากู้ไปสร้างถนนเชื่อมโยงชายแดนไทย จากด่านบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รวมเป็นระยะทาง 132 กิโลเมตร แต่ทางเมียนมายังไม่ได้ร้องขอเงินกู้กับไทย เนื่องจากมีการเลือกตั้งและเปลี่ยนแปลงรัฐบาลช่วงปี 2558-2559

ขณะที่กองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ 'สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง' (KNU) ออกแถลงการณ์เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อคัดค้านแผนเจรจาเดินหน้าโครงการก่อสร้างและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งนอกเหนือจากไทยแล้วก็ยังมีตัวแทนจากรัฐบาลญี่ปุ่นและจีนเข้ามาร่วมลงทุนกับเมียนมาด้วย

โดยเคเอ็นยูระบุว่าพื้นที่ก่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอยู่ในความควบคุมของเคเอ็นยู แต่กลับไม่มีการติดต่อเจรจากับตัวแทนของเคเอ็นยูอย่างเป็นทางการ ทั้งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจ่ายค่าชดเชยในกรณีที่จะต้องมีการเวนคืนที่ดิน และอาจจะมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางเคเอ็นยูจะเคลื่อนไหวคัดค้านหากมีการเดินหน้าโครงการเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทอิตาเลียน ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (ITD) ซึ่งเป็นผู้เสนอแผนก่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างไทยและเมียนมาในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกองทุนอนุรักษ์สัตว์ป่า (WWF) ซึ่งระบุว่าเส้นทางดังกล่าวจะตัดผ่านเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตวป่าตะนาวศรี อันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากเป็นจำนวนมาก ทั้งเสือโคร่ง เสือดาว และเสือดำ รวมไปถึงช้างป่าเอเชีย เสือไฟ แมวลายหินอ่อน และหมี

เมื่อเกิดกรณีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารของ ITD ถูกจับกุมและตั้งข้อหาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวรเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้มีการตั้งคำถามว่าโครงการก่อสร้างของ ITD ในทวายจะมีความโปร่งใสและไม่กระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่ และอาจส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวคัดค้านจากกลุ่มประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตตะนาวศรีได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: