วานนี้ (12 ก.ค. 2561) เว็บไซต์ศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลแขวงดุสิตกรุงเทพ นัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ ในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวงกรุงเทพ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 45 คน ในคดีคนอยากเลือกตั้งชุมนุมบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก หรือ 'Army57' เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2561 โดยคดีนี้โจทก์ได้ขอรวมการพิจารณาคดีนี้รวมกับคดี 'RDN50' หรือการชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2561
ด้านทนายจำเลยคัดค้านเนื่องจากพฤติการณ์และเหตุเกิดแตกต่างกัน ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้นัดวันตรงกันทั้งสองคดี แต่ได้แยกกระบวนการสอบคำให้การเช่นเดิม
ขณะเดียวกัน คณะทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลแขวงวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในข้อกฎหมาย ว่าคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 ได้ถูกยกเลิกไปแล้วด้วยการตรา พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยหากศาลเห็นว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวถูกยกเลิกและใช้แทนคำสั่งที่ 3/2558 แล้ว คำสั่งของหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 จะไม่ถูกนำมาพิจารณาในคดีนี้
ด้านทนายความอีกส่วนซึ่งร่วมทำคดีนี้ ได้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยว่าคำสั่งของหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 โดยระหว่างนี้ศาลจะนำคำร้องของทนายความจำเลยไปพิจารณา ดังนั้นในวันนี้ ศาลจึงเลื่อนฟังคำสั่งในกรณีคำร้องไปเป็นวันที่ 18 ก.ย. 2561 และศาลยังไม่ได้มีการตรวจพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย
ข่าวเกี่ยวข้อง :