การเมือง
หวั่นยื้อเลือกตั้ง เปิดผลโหวต 1 แสนเสียงรุมค้านแก้กฎหมาย กกต.
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ผ่านเว็บไซต์วุฒิสภา ที่มีต่อร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 6 คำถาม ซึ่งจะปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ตามที่นายมหรรนพ เดชวิทักษ์ สมาชิก สนช.ผู้รวบรวมรายชื่อสมาชิกสนช. 36 คนเสนอแก้ไขต่อ สนช.นั้น ล่าสุด เวลา 15.30 น. ของวันที่ 12 ส.ค. ยอดรวมมีผู้แสดงความเห็นมีจำนว 113,223 เสียง โดยมีผู้ไม่เห็นด้วยสูงถึง 106,283 ต่อ 6,940 เสียง โดยประมาณ ทั้ง 6 คำถาม คิดเป็นไม่เห็นด้วยร้อยละ 94 ส่วนคะแนนเสียงเห็นด้วย มีเพียงร้อยละ 6 เท่านั้น
ผลคะแนนล่าสุด ต่างจากผลคะแนนเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่เสียงเห็นด้วยอยู่ที่ประมาณ 6,600 ต่อ 600 คิดเป็นเห็นด้วยร้อยละ 89 ไม่เห็นด้วยเพียงร้อยะ 11 ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงแรกเกิดการปั่นโหวตให้เห็นด้วยเพื่อสนับสนุนร่างแก้ไข ก่อนที่จะมีการปั่นโหวตพลิกกลับมาไม่เห็นด้วยจนท่วมท้น อีกทั้งยังมีการทดสอบเข้าไปลงคะแนนตามระบบที่วางไว้ก็พบว่า แต่ละคนสามารถกดลงคะแนนกี่ครั้งก็ได้ ทำให้ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ เพราะที่ผ่านมาในการรับฟังความคิดเห็นกฎหมายแต่ละฉบับ จะมีเพียงผู้มาลงคะแนนเพียงหลักสิบหลักร้อยหรือเต็มที่ก็หลักพันในกฎหมายบางฉบับเท่านั้น
สำหรับความเห็นของผู้มาตอบแบบสอบถาม ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีอาทิ โดยผู้เห็นด้วย ระบุว่า "เพื่อปรับปรุงให้เข้ากับสภาวะปัจจุบัน เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการปฏิบัติโดยระบุไว้ในกฎหมาย สนช.ทำดีครับ การเลือกตั้งเป็นสาระสำคัญของประเทศ ต้องสุจริตเที่ยงธรรมชอบด้วยกฎหมาย"
ขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วย ต่างแสดงความเห็น โดยระบุว่า "ยังไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายเลย จะมารีบแก้ไขเปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุผลกลใด จะหมกเม็ดไปทำไม พวก สนช ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาแก้ไขกฎหมาย ตามใจตัวเอง ไม่พอใจ ก็จะฉีก กฎหมายไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วที่บ้าน สนช นะครับ"
"แก้ทำไม? ของเก่าดีแล้ว ค่อยแก้เมื่อมี สภาที่มาจากการเลือกตั้ง"
"เป็นการยื้อเวลาของ สนช. ไม่จริงใจต่อประชาชน ไม่ควรไปก้าวล่วงอำนาจของ กกต."
"ทำให้การเลือกตั้งเลื่อนไป"
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขล่าสุด กำหนดสาระสำคัญให้ "บรรดาการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการคัดเลือก และการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งได้ดำเนินการอยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้เป็นอันสิ้นผลไปนับแต่วันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรรมนูญนี้มีผลใช้บังคับ" พร้อมทั้งกำหนดให้มีองค์ประกอบคณะกรรมการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งไว้ในกฎหมายดังกล่าว
ด้าน นายนัฑ ผาสุก เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาพบความผิดปกติดังกล่าวแล้ว พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ ทั้งในส่วนของการลงคะแนนและการแสดงความคิดเห็นประกอบ ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์วุฒิสภาที่เจอกับความผิดปกติในลักษณะนี้ แต่ช่องทางนี้ก็ถือเป็นช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นช่องทางหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเปิดรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์วุฒิสภาจะเปิดต่อไปจนถึงกำหนดไม่สามารถปิดก่อนได้ ต้องรับฟังความเห็นตามกระบวนการ เพราะหากปิดไปก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก ดังนั้น เมื่อครบกำหนดแล้ว ทางวุฒิสภา ก็จะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ดูถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
