ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมอนามัย ชี้กรณีสาวท้อง 8 เดือนประกาศขายบริการ เสี่ยงติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์และมีความเสี่ยงกดทับมดลูก ทำให้คลอดก่อนกำหนด

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีหญิงท้อง 8 เดือนประกาศขายบริการทางเพศเพื่อหาเงินทำคลอดว่า แม้ทางหญิงสาวจะปฏิเสธความช่วยเหลือจากทางการ และได้ยุติการกระทำไปแล้ว แต่ขอเตือนว่าการมีเพศสัมพันธ์ในขณะตั้งครรภ์ ถือเป็นความเสี่ยง ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้มีกิจกรรมทางเพศในหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 0-3 เดือน และ 7-9 เดือน เนื่องจากการกดทับ จะเป็นการกระตุ้นมดลูกหดตัว ทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด หรือในอายุครรภ์ที่น้อยก็เสี่ยงที่จะแท้งบุตรได้ 

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช่คู่นอนแน่นอนย่อมมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิด ทั้ง หนองใน ,ซิฟิลิส. เริม หูดหงอนไก่ และเอดส์  ซึ่งบางโรคก็แสดงอาการทันที แลบางโรคก็ส่งผลต่อเด็กทารกแรกเกิดได้อีกด้วย

หญิงสาวเข้ามอบตัวแล้ว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ต.ค. หญิงสาวคนดังกล่าวได้เดินทางเข้าเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตามหมายเรียก

น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี กล่าวว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้เงินเป็นรายวัน หากไม่ทำงานก็ไม่มีรายได้ ส่วนสามีทำงานรับจ้างขายของ ได้ค่าจ้างเดือนละ 9,000-11,000 บาท และปัจจุบันมีลูกสาวอายุ 9 ขวบอีกหนึ่งคน

ด้วยภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ไม่มีเงินเพียงพอ ขณะนี้ได้ฝากครรภ์ไว้ที่โรงพยาบาลรัฐ โดยมีกำหนดคลอดต้นเดือน พ.ย. จะต้องใช้ค่าคลอดประมาณ 15,000 บาท 

ทั้งนี้การตัดสินใจเสนอตัวขายบริการทางเพศ ไม่ได้ปรึกษาหรือบอกให้สามีรับทราบ ตนตัดสินใจสมัครเฟซบุ๊ก พร้อมถ่ายรูปและอัดคลิป ประกาศขายตามที่ตกเป็นข่าว แต่ไม่ทราบว่าใครนำไปส่งต่อตามเพจ จนกระทั่งถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง 

ตำรวจเอาผิด 2 ข้อหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 

และความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 7 "ผู้ใดโฆษณาหรือชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสารสิ่งพิมพ์ เพื่อการค้าประเวณีของตนเองและผู้อื่น"

ทั้งนี้หญิงสาวได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ และเครือข่ายสิทธิสตรี เพราะเกรงว่า สามีจะรับรู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. จึงรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งมองให้ช่วยเหลือเป็นค่าคลอดบุตร