ไม่พบผลการค้นหา
'พิชัย นริพทะพันธุ์' ได้รับแจ้งจาก บก.ปอท. นัดส่งสำนวนสอบสวน พร้อมส่งตัวให้พนักงานอัยการดำเนินคดี ในวันที่ 12 มี.ค. นี้ เวลา 10:00 น ข้อหานำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความเสียหายต่อความมั่งคง และเศรษฐกิจ เหตุกล่าวถึงการห้ามจำหน่ายนิตยสารไทม์ ปก พล.อ.ประยุทธ์และ 'พลังดูด 4.0'

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า วันนี้ (22 ก.พ.) ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในชื่อ ร.ต.ท หญิง ปัณณพร ยิ่งเรงเริง แจ้งว่า วันที่ 12 มี.ค. 2562 เวลา 10.00 น. เป็นนัดส่งสำนวนการสอบสวน พร้อมตัวผู้ต้องหา ต่อพนักงานอัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการ พิจารณามีคำสั่งในคดี 

ทั้งนี้ คดีของนายพิชัย เป็นคดีอาญาที่ 35/2561 ของ บก.ปอท. ข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลเท็จ ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ จากการโพสต์ ภาพห้ามจำหน่าย นิตยสารไทม์ ปก พล.อ.ประยุทธ์ และการดูด 4.0

โดยภาพแรกเป็นรูปปกนิตยสารไทม์ที่มี รูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และข้อความในแนวว่าห้ามจำหน่ายในประเทศ ซึ่งเป็นรูปที่นำมาจากการกระจายทั่วไปในโซเชียลมีเดีย และในขณะนั้นก็หาซื้อนิตยสารดังกล่าวไม่ได้จริง 

อีกภาพเป็นเรื่องการดูด 4.0 ที่นายพิชัย ถูกเชิญร่วมสัมมนาทางวิชาการกับ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ที่สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พร้อม ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคอนาคตใหม่ และนายพิชัยได้นำข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสื่อมวลชนอยู่แล้วนำเสนอในด้านวิชาการ เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในอนาคต ตามวัตถุประสงค์ของการสัมมนา

โดยทั้งสองภาพไม่ปรากฏว่ามีการกล่าวถึง คสช. แต่ผู้ฟ้องคือ ตัวแทนของ คสช. ได้รับมอบอำนาจมา และทั้งสองภาพเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจกันอยู่แล้ว ไม่ได้ทำความเสียหายแก่เศรษฐกิจแต่อย่างใด และ หลังจากโพสต์ภาพ ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความตระหนกที่มีผลเสียต่อเศรษฐกิจ 

นายพิชัย กล่าวว่า ตนพร้อมทนายความ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความ จะไปพบเจ้าหน้าที่อัยการพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันและเวลาดังกล่าว โดยเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ เชื่อได้ว่าที่ตนโดนดำเนินคดีเพราะตนได้วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่ทำให้ ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มปฏิวัติจนถึงปัจจุบัน แม้จะถูกเรียกปรับทัศนคติถึง 8 ครั้ง และเรื่องต่างๆ ที่ตนวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นข้อมูลที่แท้จริงทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :