ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ เมิน 'ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์' ปรากฎตัวที่ญี่ปุ่น ยันดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ คาด 2 อดีตผู้นำไทยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเข้าญี่ปุ่น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีการปรากฏตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรี ระบุสั้นๆ ว่า "ช่างเขาสิ" เมื่อถามย้ำว่า หลังจากนี้จะดำเนินการตามกฏหมายอย่างไรต่อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ไปถามเขาซิ ทุกอย่างดำเนินการตามกฏหมายครบถ้วนแล้ว"

ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า เท่าที่ทราบข้อมูลเบื้องต้น นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปในนามส่วนตัว โดยรู้จักและเป็นเพื่อนกับอดีตรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่ได้เขียนหนังสือของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตีกอล์ฟ และไม่สามารถบอกได้ว่าการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าแบบใด แต่เชื่อว่าผู้จัดงานคงเป็นคนดำเนินการให้จนได้รับการอนุญาตวีซ่าดังกล่าว 

"หลังจากปรากฏเป็นข่าวออกมาทางไทยก็ได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังญี่ปุ่น โดยในวันเดียวกันนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่กำลังประชุมอยู่ที่ญี่ปุ่นก็จะได้พูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวนี้เช่นกัน ถึงแม้ในการประชุมจะมีการพูดคุยในหลายๆ เรื่อง แต่ก็จะมีประเด็นเรื่องนี้อยู่ด้วย" นายดอน กล่าว 

เมื่อถามว่า จะขอให้ปลัดกระทรวงพูดคุยกับญี่ปุ่นเพื่อขอให้ยกเลิกวีซ่าของนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า วีซ่าดังกล่าวเป็นเพียงครั้งคราว ใช้ไปก็หมด ไม่ใช่วีซ่าระยะยาว

เมื่อถามถึงความชัดเจนกรณีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-ญี่ปุ่น นายดอน กล่าวว่า เรื่องนี้มีแต่คนพูดถึง แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อมีแล้วจะต้องดำเนินการ เพราะมีอีกหลายมุม รัฐบาลญี่ปุ่นก็เข้าใจเรื่องนี้ดีและเขามีความรู้สึกว่า อะไรที่ดำเนินอยู่ก็จะไม่ค่อยถูกต้อง เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด แต่การเดินทางไปดังกล่าวไม่ใช่รัฐบาลเป็นคนเชิญ และในคราวนี้ก็มีความชัดเจนว่า นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับอดีตรัฐมนตรีของญี่ปุ่นคนดังกล่าว ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะขอร้องอะไรไปทางรัฐบาลเขาก็รับทราบ แต่ก็ติดปัญหาบ้านเมืองของเขา

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากรณีนี้ไม่เข้าข่ายกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของญี่ปุ่นกลับไทยใช่หรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ก็ออกมาในแนวนั้นถึงได้มีข่าวออกมาอย่างนี้  โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าใจดีว่า ปกติการให้ผู้กระทำผิดกฎหมายของอีกบ้านเมืองหนึ่งเข้าประเทศเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง