หลังการตั้ง 6 คำถาม ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เซียนการเมืองต่างวิเคราะห์ วิเคราะห์ทางรัฐบาลอาจโยนหินถามทาง หวังปูทางการเมืองหลังกระแสความนิยมของรัฐบาลตกต่ำ
โดยเฉพาะคำถามข้อที่ 2 ที่มองกันว่าอาจมีการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเองในนามของพรรคทหาร ถึงขนาดเซียนการเมืองของสื่อบางฉบับชี้ลงไปว่าตั้งชื่อพรรคเอาไว้แล้วว่า พรรคประชารัฐ แต่จะจริงเท็จแค่ไหน ยังไม่มีอะไรชี้ชัด
อย่างไรก็ตาม หากแนวโน้มการตั้งพรรคทหาร มีแนวโน้มเกิดขึ้นจริง พรรคการเมืองในสนามเก่ามองกันอย่างไร
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย มองว่าหากมีการตั้งพรรคทหารจริง สังคมต้องย้อนกลับไปมองคสช.ที่เป็นองค์กรมาจากการยึดอำนาจ ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย และยังคงมีอำนาจเต็มแม้มีการเลือกตั้งแล้วก็ตาม
การที่คสช.จะตั้งพรรคหรือสนับสนุนพรรคการเมืองจะเป็นการขัดแย้งกัน ขาดความเป็นกลาง และถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย จนทำให้การเลือกตั้งไม่มี
นายชูศักดิ์ ระบุว่า เพื่อความบริสุทธิ์ยุติธรรม ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายต่อสังคมอย่างยิ่ง แต่หากคสช.จะลงมาเล่นการเมืองจริงก็ควรลาออกจากตำแหน่งของคสช.และให้มีรัฐบาลรักษาการในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ต้องประกาศให้ชัดเจนไปเลยว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การเมืองมีความโปร่งใส เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้วบ้านเมืองก็จะกลับเข้าสู่ความขัดแย้งอีกเช่นเดิม
ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มองว่าหากคสช.มีการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาจริง สังคมต้องย้อนกลับไปดูนโยบายของคสช. ที่ผ่านมาเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนมากกว่าประชาชนทั่วไป คสช.จะกระโดดเข้ามาสู่สนามการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ แต่การเข้ามาในระบอบประชาธิปไตยต้องไม่มีอำนาจพิเศษจากการที่คสช.มีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่เเล้ว แถมยังมีอำนาจอยู่จนถึงหลังการเลือกตั้ง เพราะอาจเป็นคุณหรือเป็นโทษให้กับพรรคการเมืองอื่นๆได้ และต้องถามคสช.ว่าทางพรรคจะใช้นโยบายเดิมเหมือนคสช.หรือไม่ เพราะนโยบายด้านเศรษฐกิจเดิมไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนเท่าไหร่นัก
อีกฟาก นายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทย มองว่าเป็นสิ่งที่ดี ประชาชนจะได้มีทางเลือกมากขึ้น และเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จของคสช. จากที่เคยออกมาบอกอยู่เป็นประจำว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลสูงมาโดยตลอด ส่วนจะมีผลกับการเลือกตั้งหรือไม่เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก เพราะการเลือกตั้งเป็นแบบใหม่ กติกาใหม่ ผลต่างๆที่ออกมาก็คงเป็นเรื่องใหม่ๆ และมองว่าเป็นการเลือกตั้งที่ปราบเซียน
ส่วนนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยให้สัมภาษณ์ว่าหากคสช.เข้ามาสนับสนุนพรรคการเมืองจริง นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะคสช.เข้ามาโดยอ้างจากปัญหาบ้านเมือง ถือว่าเป็นกรรมการ
แต่เมื่อประกาศจะสนับสนุนพรรคการเมืองก็ถือว่าเป็นผู้เล่น และควรที่จะประกาศให้ชัดเจนว่า จะเป็นกรรมการ หรือเป็นผู้เล่น และหากเป็นผู้เล่น ก็ควรเล่นในกติกาเดียวกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบ เพราะคสช.มีอำนาจรัฐอยู่ในมือไปจนถึงมีรัฐบาลชุดใหม่ เราจะไว้ใจได้อย่างไรว่าจะไม่ใช้อำนาจรัฐเพื่อช่วยพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน จึงมองจาก 6 คำถามถือเป็นการโยนหินถามทางและเป็นการหวังผลทางการเมืองในรูปแบบ