อาชญากรรม
'คนรุ่นใหม่' รุดให้กำลังใจ 'ประวิตร' สางปัญหาพนันบอล
แกนนำ 3 องค์กรเยาวชน นำโดย เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน ร่วมด้วยสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือต่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ ในการป้องกันและปราบปรามธุรกิจพนันด้วยความแข่งขัน ในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก ปีนี้ ด้วยมาตรการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ ทั้งการจับและปิดเว็บพนันที่รวดเร็วขึ้น
โดยเครือข่ายเยาวชน ระบุว่า พร้อมเป็นหน่วยเฝ้าระวังช่วยแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน พร้อมกันนี้กลุ่มเยาวชนได้จัดแสดงเชิงสัญลักษณ์ ผีพนัน เพื่อสะท้อนการมอมเมาเยาวชน ด้านพลเอกประวิตร รับทราบความห่วงใย และมอบหมายให้พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมเป็นผู้รับมอบหนังสือ
นอกจากนี้ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทยยังกล่าวถึงผลสำรวจเด็กและเยาวชนอายุ 13 - 21 ปี จำนวน 3,000 คนทั่วประเทศ ที่พบว่าเด็กและเยาวชน กว่าร้อยละ 70 ที่เข้าถึงช่องทางเว็บพนันออนไลน์ได้ง่ายกว่าเข้าบ่อนหรือโต๊ะพนัน ขณะที่กว่าร้อยละ 20 ไม่แน่ใจเพราะยังไม่มีโอกาสแต่หากมีโอกาสก็ย่อมสามารถเข้าถึงเว็บพนันได้ง่ายกว่าบ่อน ซึ่งจะทำให้มีผู้เข้าถึงการพนันผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเป็นร้อยละ 90
'วอยซ์ ออนไลน์' สอบถามไปยัง นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน ถึงกรณีจำนวนเว็บไซต์ที่ถูกปิดตามนโยบายของรัฐบาล คสช.
"อันนี้เราไม่ชัวร์นะครับ อาจจะต้องตามข่าว จริงๆ พวกผมก็ดูจากข่าว เพิ่งจับไป ปิดเว็บ ปิดไร ทางผมไม่ได้มีตัวเลข ไม่ได้เก็บข้อมูลเรื่องตัวเลขไว้" ณัฐพงศ์กล่าว
'วอยซ์ ออนไลน์' สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนเยาวชนที่ติดพนันบอล นายณัฐพงศ์เล่าว่าได้ติดตามข้อมูลจาก ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจากผลสำรวจปี 2560 พบว่า มีคนไทยเล่นพนันฟุตบอลประมาณ เกือบ 2.5 ล้านคน เป็นเด็กเยาวชนอายุ 15-25 ปี จำนวน 600,000 คน
"เราไม่ได้มองถึงขั้นเป็นความสำเร็จ แต่เราก็ไปขอบคุณที่รัฐบาลมีนโยบายหรือคำสั่งลงมา อย่างที่ พล.อ.ประวิตร ได้มีคำสั่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกระทรวงมหาดไทย แต่ละพื้นที่ให้ป้องกันและปราบปรามปัญหาการพนัน อย่างน้อยทางรัฐบาลออกมาแอคชั่นมีคำสั่ง เราจะเห็นว่าทางสำนักงานตำรวจฯ ก็จริงจังกับเรื่องนี้ ก็มีข่าวจับปิดเว็บ อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ รัฐบาลหรือหน่วยงานใดที่ลุกขึ้นมาทำก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว"
นายณัฐพงศ์ ย้ำว่าการออกไปยื่นหนังสือขอบคุณในครั้งนี้ ทางเครือข่ายมีความตั้งใจจะยื่นข้อเสนอ ให้จัดตั้งคณะกรรมการควบคุมการพนันแห่งชาติ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามในระยะยาว ไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาล อีกทั้งทางเครือข่ายต้องการสื่อสารและชวนเชิญไม่ให้มีการเล่นการพนันในช่วงถ่ายทอดสดฟุตบอล
เมื่อสอบถามเพิ่มเติมไปว่า หากมีเด็กและเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าการเล่นพนันไม่ได้ผิด และอยากให้การพนันถูกกฎหมายเกิดขึ้นในสังคมไทย นายณัฐพงศ์มองว่า ทางเครือข่ายไม่ได้ค้านการพนันแบบหัวชนฝา เพียงแต่เป็นกังวลกับผลกระทบที่ตามมา หากมีการพนันถูกกฎหมาย
"จริงๆ เราก็ไม่ได้ไปตัดสินว่าความคิดที่อยากให้มีการพนันถูกกฎหมายเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ใช่ครับ แต่ต้องมาชวนคุยทำความเข้าใจกันว่าถ้ามีแล้ว มันจะแก้ปัญหาการพนันที่มันผิดกฎหมายได้จริงหรือ เพราะส่วนใหญ่คนที่ออกมา มักจะพูดว่าทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ก็คือต้องเปิดแบบถูกกฎหมาย เพราะส่วนใหญ่จะพูดถึงเฉพาะเม็ดเงินอย่างเดียว แต่เราสามารถควบคุมหรือจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาได้หรือเปล่า เราไม่เคยพูดถึงว่าถ้าเปิดบ่อนถูกกฎหมายในบ้านเรา สังคมจะต้องเสียหาย หรือ เสียอะไรไปบ้าง"
นอกจากนี้ ณัฐพงศ์ยังตั้งคำถามทิ้งท้ายว่า ถ้าการพนันถูกกฎหมาย จะทำให้การพนันใต้ดินหรือการพนันผิดกฎหมายหมดไปจริงหรือ เพราะณัฐพงศ์ไม่มั่นใจในการบังคับใช้กฏหมายของบ้านเราที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ข่าวเกี่ยวข้อง :
