ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018 หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ นัดที่ 2 รอบรองชนะเลิศไทยต้องชนะมาเลเซียให้ได้สถานเดียว และห้ามเสมอแบบมีสกอร์ จึงจะผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้ ซึ่งนัดแรกผลสกอร์ไทยบุกไปยันเสมอไว้ 0-0
โดยไทยได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 21 ในจังหวะที่ ศุภชัย ใจเด็ด เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ พุ่งเข้าโขกหน้าประตูบอลไปโดน โมฮัมเหม็ด ไฟซาลเข้าประตู
จากนั้นนาทีที่ 28 มาเลเซียได้ประตูตีเสมอทันควัน 1-1 จากจังหวะสวนกลับ ซึ่งผู้เล่นของไทย เข้าปิดผู้เล่นไม่ทัน ทำให้ซาฟารี แบ็คขวามาเลเซีย ลากบอลมายิงนอกกรอบเขตโทษเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
จบครึ่งแรกไทยเสมอมาเลเซีย 1-1 เปิดฉากครึ่งหลังไทยเดินหน้าเปิดเกมรุกเต็มที่เพื่อหวังเอาประตูชัยเท่านั้น จนกระทั่งได้ประตูขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 63 โดยพรรษา เหมวิบูลย์ โขกซ้ำเข้าประตู
แต่แล้วเสียงกองเชียร์ไทยกว่า 40,000 คนได้เงียบลงทันที เมื่อมาเลเซีย ไล่ตีเสมออย่างรวดเร็วในนาทีที่ 71 เป็นสกอร์ 2-2 จากจังหวะที่ นอร์ชารูล ได้บอลที่ไหลมาหน้าประตูก่อนยิงเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที ไทยเดินหน้าเต็มสูบเพื่อยิงประตูชัย จนได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซาฟารี กระโดดเอามือปัดบอลในกรอบเขตโทษ ทำให้ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ อดิศักดิ์ ไกรษร จะรับหน้าที่สังหารแต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างสุดช็อกคนดูทั้งประเทศ ทำให้มาเลเซียเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสำเร็จด้วยกฎประตูทีมเยือน ส่วนไทยพลาดโอกาสทะลุเข้าไปป้องกันแชมป์สมัยที่ 6 และป้องกันแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน
ด้านเฟซบุ๊ก เพจช้างศึก รายงานสถิติของผู้เข้าชมเกมการแข่งขันระหว่างทีมชาติไทย และมาเลเซียในสนามราชมังคลากีฬาสถานมี จำนวนผู้เข้าชมทั้งสิ้น 46,157 คน ส่วนบัตรที่เข้าชมได้จำหน่ายหมดทุกที่นั่ง
โดยก่อนหน้าที่ไทยจะลงแข่งกันมาเลเซียเพียง 1 วัน ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์ข่มทีมชาติมาเลเซียว่า "ขอให้มาเลเซียนอนให้ฝันดีคืนนี้ เพราะพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.)จะเป็นฝันร้ายของเขา"
ส่วน อดิศักดิ์ ไกรษร หยุดสถิติการยิงประตูที่ยังนำดาวซัลโวสูงสุดรายการนี้ไว้ที่ 8 ประตู
ราเยวัช ชี้เหตุพลาดถูกตีเสมอ ไทยช็อตหลังถูกตีเสมอ
ขณะที่ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า "เราไม่สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทำให้ผมไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก แต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ต้องขอแสดงความยินดีกับมาเลเซียด้วย พวกเขาเหมาะสมที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว หลังจากนี้ผมก็จะโฟกัสและเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียในต้นปีหน้า"
"มาเลเซีย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และได้ประตูออกนำถึงสองครั้ง แต่พวกเขาก็สามารถตามตีเสมอได้ทั้งสองครั้ง หลังจากเสียประตูเราช็อตไปดื้อๆ และมีโอกาสเอาชนะได้เมื่อได้จุดโทษท้ายเกม แต่เราก็พลาดไป"
"ในการแข่งขันครั้งนี้เรายังไม่แพ้ทีมใด แต่เราตกรอบด้วยกฏประตูทีมเยือน นี่แหละฟุตบอล เราต้องเดินหน้าต่อไป" กุนซือช้างศึก กล่าวปิดท้าย
กุนซือมาเลเซีย มั่นใจไม่พลาดจุดโทษ
ด้าน ตัน เชิง โฮ กุนซือทีมชาติมาเลเซีย ระบุว่า "ตอนเราเสียจุดโทษ ผมยังมั่นใจในตัวผู้รักษาประตูของเรา เพราะเขาศึกษาการเล่นของ อดิศักดิ์ ไกรษร มาเป็นอย่างดี ส่วนนัดชิงชนะเลิศเราพร้อมเจอทั้ง เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์"
ส่วน นอร์ชาห์รูล อิดฮาน ตาฮาลา หัวหอกที่ยิงประตูตีเสมอ ซึ่งเป็นประตูสำคัญส่งให้ทีมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ กล่าวว่า "ขอบคุณทุกสิ่งที่ทุกอย่างทั้งครอบครัว และโค้ช รวมทั้งผู้เล่นทุกคน กับค่ำคืนอันแสนวิเศษวันนี้"
"การเจอทีมชาติไทยครั้งนี้แตกต่างจากการพบกันในรอบชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะตอนนั้นไทยเต็มไปด้วยนักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา แต่ผมคิดว่าทีมชาติไทยยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่ง
อดิศักดิ์ รับคิดเยอะ ขอจำไว้เป็นบทเรียน
ด้าน อดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งสังหารจุดโทษพลาดทำให้ทีมชาติไทยพลาดเข้าชิงชนะเลิศ เปิดใจว่า ส่วนตัวพูดไม่ออก จำไว้เป็นบทเรียน ต้องสู้ต่อไป พร้อมยอมรับว่า "จังหวะที่ยิงจุดโทษ คิดเยอะเป็นบทเรียนของผม จังหวะนี้ไม่ควรกังวลคิดเยอะไปหน่อย"
"ขอบคุณทุกกำลังใจ ผมไม่อยากผิดพลาดเป็นบทเรียนของผม"
ขณะที่คู่ตัดเชือกรอบรองชนะเลิศ อีกคู่หนึ่งจะพบกันในวันที่ 6 ธ.ค. โดยเวียดนาม จะเปิดบ้านรับการมาเยืนอของทีมชาติฟิลิปปินส์ หลังเวียดนามบุกไปเอาชนะมาได้ก่อน ด้วยผลสกอร์ 3-1
สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก จะแข่งขันวันที่ 11 ธ.ค.2561 ที่สนามบูกิต จาลิล ซึ่งทีมชาติมาเลเซีย จะรอพบผู้ชนะระหว่าง เวียดนาม หรือ ฟิลิปปินส์ ส่วนนัดที่ 2 จะแข่งขันวันที่ 15 ธ.ค. 2561
สำหรับโปรแกรมถัดไปทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช มีคิวเตรียมทีมลงแข่งขันศึก เอเชียน คัพ 2019 ในวันที่ 5 ม.ค. 2562 ร่วมสายกับ อินเดีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน ในกรุ๊ป เอ
ภาพ - เฟซบุ๊ก ฟุตบอลทีมชาติไทย ช้างศึก