ไม่พบผลการค้นหา
พรรคพลังประชารัฐ ยันไม่ได้กดดัน กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งเอื้อประโยชน์ ด้านโฆษกคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงฯ โต้สมัยปี '54 คนได้ประโยชน์ไม่ออกมาเรียกร้อง แต่คราวนี้เสียประโยชน์ก็โวยวาย

นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจมีการแบ่งเขตเลือกตั้งเอื้อให้กับพรรค พปชร. ว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 เขตเป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งพรรค พปชร. ได้เข้าร่วมประชุมกับ กกต. และเสนอความเห็นต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้ว การจะตัดสินใจอย่างไรในชั้นสุดท้ายเป็นดุลพินิจของ กกต. ซึ่งตนไม่ขอก้าวล่วงการตัดสินใจดังกล่าว และยืนยันว่าพรรค พปชร. ไม่ได้กดดันหรือชี้นำสั่งการองค์กรอิสระได้ ทั้งนี้กรณีที่เป็นข่าวเป็นเพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น จึงน่าจะรอการประกาศแบ่งเขตทั้งหมดว่าออกมาเป็นอย่างไรดีกว่า

​นายวิเชียร กล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จนถึงช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ พรรค พปชร. จะลงไปสนับสนุนสมาชิกของพรรคที่ จังหวัดร้อยเอ็ด กระบี่ ลำปาง เพื่อประชุมจัดตั้งสาขาของพรรคในภาคต่างๆ โดยตามกฎหมายพรรคการเมืองต้องมีการเลือกหัวหน้าสาขาของพรรคประจำภาคและกรรมการรวม 9 คน ซึ่งเมื่อมีสาขาภาคครบถ้วนแล้วจะเป็นขั้นตอนในเรื่องการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งคาดว่าในกลางเดือนธันวาคมนี้พรรคจะจัดประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 เพื่อทำการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคอย่างเป็นทางการรวม 11 คน ประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรค 4 คน และสมาชิกพรรค 7 คน โดยคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครจะมีหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์ กระบวนการต่างๆ ทั้งการรับเอกสารแสดงความจำนงจากสมาชิกตลอดจนขั้นตอนตามกฎหมายทั้งหมด

​นายทะเบียนพรรค พปชร. กล่าวว่า ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2561 ให้ยกเว้นการทำไพรมารีโหวต แต่ได้กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครต้องเปิดรับฟังความเห็นจากหัวหน้าสาขาภาค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกพรรค ในการคัดเลือกตัวผู้สมัครก่อนนำเสนอให้พรรคพิจารณาด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญและพรรคให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคอย่างแท้จริง เราทำพรรคการเมืองเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้นกระบวนการต่าง ๆ ของพรรคก็ต้องยึดโยงกับประชาชน

ธนกร วังบุญคงชนะ.jpg

'ธนกร' แซะ คนเสียเปรียบมาโวยวาย กกต. แบ่งเขตคล้ายปี '54

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์เขตเลือกตั้งไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะที่จังหวัดสุโขทัย ว่า หากสังเกตการณ์แบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่ของ กกต. จะเห็นได้ว่า ใกล้เคียงกับการแบ่งเขตการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ไม่ได้เป็นการเริ่มใหม่หรือแบ่งตามอำเภอใจ ซึ่งการแบ่งเขตนี้สอดคล้องกับที่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ให้จำนวนประชากรในแต่ละเขตมีความใกล้เคียงกันมากที่สุด ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่ามีการเอา อำเภอทุ่งเสลี่ยม มาเชื่อมกับเขต 2 ทั้งที่มีอาณาเขตติดต่อกันเพียง 500 เมตรเท่านั้น ก่อนหน้านี้ในการเลือกตั้งปี 2557 กกต. เคยแบ่งเขตแบ่ง อำเภอเมืองไปอยู่กับอีกเขต ตอนนั้นคนที่ได้ประโยชน์ไม่ได้ร้องเรียนอะไร เห็นดีเห็นงามด้วย แต่พอคราวนี้ตนเองไม่ได้ประโยชน์และไม่ได้เปรียบหรืออย่างไรถึงออกมาโวยวาย ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ซึ่งโดยมารยาทไม่น่าทำ ควรจะเอาเวลาไปคิดวิธีการหาเสียงจะดีกว่า

“ผมคิดว่าการแบ่งเขตแบบใหม่ของ กกต. นี้ ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือพรรคใด การแบ่งเขตแบบนี้เคยเกิดสมัยการเลือกตั้งปี 54 สามารถไปเอารูปมาเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งหลังจากนั้น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ามาเป็น กกต. ทำไมไม่เห็นโวยวายอะไร หรืออาจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นยังไม่แสดงตัวชัดเจน แต่ตอนนี้เปิดตัวเป็นทางการแล้ว” นายธนกร กล่าว