ไม่พบผลการค้นหา
คำบอกเล่าจากปากนักศึกษาชาวไทยที่เดินทางกลับจากปากีสถาน ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนคัดกรองโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามเงื่อนไขกักตัว 14 วัน ระบุ "ขอให้เสพข่าวอย่างมีสติ"

-บอกเล่าชีวิตตอนอยู่ในประเทศปากีฯ ช่วงถูกกักตัว

นักศึกษารายนี้ เล่าผ่านโพสต์เฟซบุ๊กว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศปากีสถาน คล้ายกับในประเทศไทย แถมเมืองที่พวกเขานักศึกษาเรียนอยู่ไม่ได้จัดว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่ด้วยทางการปากีสถานประกาศปิดเมือง ทำให้มหาวิทยาลัยของพวกเขาประกาศให้นักศึกษาทุกคนกลับบ้าน

ส่วนนักศึกษาที่เป็นชาวต่างชาติต้องถูกกักตัวอยู่ในหอพักที่มีเจ้าหน้าที่คุม ไม่สามารถออกไปไหนได้เป็นเวลา 14 วัน แม้จะครบกำหนดแล้วทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ปล่อยให้นักศึกษาเดินทางออกนอกหอพักได้อยู่ดี และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอด หากต้องการอะไรเพิ่มเติมให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้

-มีเอกสารครบ ตรวจวัดไข้แล้วก่อนขึ้นเครื่องกลับไทย

นักศึกษาคนเดิม เล่าอีกว่า วันเดินทางกลับ พวกเขามีใบรับรองแพทย์ว่าสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย หรือ Fit to Fly และหนังสือรับรองจากสถานทูต ทำตามขั้นตอนของทางรัฐบาล ก่อนขึ้นเครื่องมีการตรวจคัดกรอง วัดไข้ และเช็กเอกสารอีกครั้งอย่างละเอียด ถ้าใครเอกสารไม่พร้อมจะไม่สามารถเช็กอินได้

เมื่อเดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประเทศไทย ก็มีเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานไทยมารอรับเพื่อนำผ่านจุดคัดกรอง วัดไข้ และตรวจเอกสารอีกชั้น ก่อนส่งขึ้นรถบัสที่จัดหาไว้ให้ เพื่อพาไปส่งยังจังหวัดที่นักศึกษาลงทะเบียนไว้ 

n.jpg

-เดินทางถึงจังหวัด มีเจ้าหน้าที่จังหวัดรับช่วงต่อพาไปกักตัวอีก 14 วัน

และเมื่อเดินทางกลับถึงจังหวัดของนักศึกษาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จังหวัดที่ได้รับการสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้พาตัวนักศึกษาทั้งหมดไปกักตัว 14 วันตามสถานที่ของแต่ละจังหวัดที่จัดไว้ อย่างของนักศึกษารายนี้คือที่หอพักใน ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จ.ปัตตานี เป็นสถานที่กักตัวนักศึกษาไทยอยู่ทั้งสิ้น 61 คน 

ซึ่งนักศึกษาไทยคนนี้ยืนยันว่า ชีวิตความเป็นอยู่ในสถานที่กักตัวที่ทางจังหวัดจัดหาให้นี้เป็นไปอย่างสะดวกสบาย มีของใช้จัดเตรียมไว้ให้ในวันแรกของการเข้าพัก แต่ไม่สามารถให้ญาติมาเยี่ยมได้เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นการชุมนุมของคนหมู่มาก โดยญาติสามารถฝากของให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อให้กับนักศึกษาอีกต่อหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจวัดไข้นักศึกษาในระหว่างการกักตัววันละ 3 เวลา เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่มีไข้แล้ว

บรรยาการที่พักศูนย์กักตัวโควิด ปัตตานี.jpg

-ไปเรียนด้วยทุนพ่อแม่ ไม่ใช่ทุนรัฐบาลเหมือนหลายคนเข้าใจ

นักศึกษาคนนี้ บอกกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า พวกนักศึกษาทั้งหมดที่เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับตนในประเทศปากีสถานไปด้วยทุนของพ่อแม่ ไม่ใช่จากทุนรัฐบาลตามที่หลายคนเข้าใจ และที่สำคัญมหาวิทยาลัยที่พวกเขาไปเรียนนั้นไม่ได้เปิดสอนแค่ศาสนาเท่านั้น ยังมีคณะ/สาขาอื่นๆ อีก อย่างนักศึกษาผู้ที่ให้ข้อมูลกับ 'วอยซ์ออนไลน์ ศึกษาอยู่ในคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอาหรับ มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ อิสลามาบัด ปากีสถาน หรือ International Islamic University Islamabad (IIUI) คนอื่นๆ ก็เรียนสาขาเศรษฐศาสตร์, วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, การศึกษา, จิตวิทยา, ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นต้น

โดยทางนักศึกษาเองบอกด้วยว่า พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะมองพวกเขาเป็นอย่างไร แต่พวกเขาจะทำหน้าที่พักตัวตามที่รัฐกำหนดไว้จนครบแล้วถึงกลับบ้าน

นักศึกษาไทยจากปากีสถาน.jpg

-ไม่โต้ผู้ที่มองว่าตนเหมือนแรงงานไทยนอกกฎหมายที่กลับไทยช่วงแรก

นอกจากนั้นแล้ว กลับมีคนไทยบางคนคิดว่ากลุ่มนักศึกษาเหล่านี้จะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดยังจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้ กล่าวว่า ไม่อยากตอบโต้ และเชื่อว่าการเงียบคือเรื่องดีกว่า แต่อยากให้พวกเขาลดอคติ ความคิดที่ว่าชาวภาคใต้เป็นคนไม่ดี เพราะทุกที่นั้นมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน กลับอยากให้ทุกคนให้กำลังใจทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังทำหน้าที่ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้จะดีกว่า และพวกเขายืนยันอีกครั้งว่า มีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมมากพอและพร้อมถูกกักตัว 14 วัน

ทั้งนี้ เว็บไซต์ worldometer รายงานสถิติล่าสุดของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศปากีสถาน วันที่ 1 เม.ย.2563 อยู่ที่ 2,042 รายและ 26 รายตามลำดับ ขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 1,771 ราย และผู้เสียชีวิต 12 ราย

ห้องพักกักตัว.jpg

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: