แต่กลับยิ่งตอกย้ำว่า พล.อ.ประวิตร เป็น ‘ผู้มีบารมีนอกพรรค’ ที่แท้จริง หลังตกเป็นข่าวมาตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชารัฐ แม้ พล.อ.ประวิตร จะพยายามปฏิเสธมาก็ตาม จนมีการเปรียบว่า พล.อ.ประวิตร คือ ‘หัวน้าพรรคตัวจริง’
หากย้อนไปถึงช่วงต้น พ.ย. 2560 พล.อ.ประวิตร ถือเป็นคนแรกที่พูดถึงการตั้งพรรค คสช. ขึ้นมา โดยสื่อได้ถามว่า คสช.ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการตั้งพรรคหรือเป็นนอมินี โดย พล.อ.ประวิตร ได้ตอบสื่อจนมีการมองว่าหลุดหรือจงใจว่า “ผมไม่ยุ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องตั้ง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่จำเป็น ยังไม่มีแผนอยู่ในใจ”
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร แทงกั๊กเรื่องการจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค ว่า จะชี้แจงหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาแล้ว พร้อมปฏิเสธตอบว่าจะมาเป็น ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ ตามที่เคยมีกระแสข่าวเมื่อ 2 เดือนก่อน
แม้ในช่วงเวลานั้นจะแง้มคำตอบหรือหลุดออกมาให้เห็นถึงความเป็นไปได้ แต่ในช่วงนี้จะใช้ ‘วิธีนิ่งและยิ้ม’ เพื่อสยบความเคลื่อนไหวและบอกคำตอบเป็นกลายๆ
“ยังไม่มีการพูดคุย แล้วหลุดไปได้อย่างไร ใครเป็นคนพูด ผมไม่รู้และไม่รู้จริงๆ” พล.อ.ประวิตร กล่าวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2562
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่มีกระแสข่าวออกมาพร้อม พล.อ.ประวิตร โดยเตรียมไปนั่งหัวหน้าพรรค ช่วงที่พรรคมีรอยร้าวและแบ่งเป็นก๊กก่อนจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุไว้ว่า อยู่ระหว่างการปรึกษาทีมกฎหมาย แต่ผ่านมา 1 เดือน ก็มีคำตอบตรงกับ พล.อ.ประวิตร โดยจะตัดสินใจและชี้แจงหลังจากการแถลงนโยบายต่อสภา
"ยังไม่คิด เดี๋ยวก่อน ให้ผ่านตรงนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2562
ท่ามกลางกระแสข่าวว่าทั้ง ‘2ป.บูรพาพยัคฆ์’ ผู้มีบารมีของพรรคได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว
แม้ ‘ผู้กองมนัส’ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ภาคเหนือ ที่ได้ว่าเป็น ‘มือประสานสิบทิศ’ ของพรรค จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้พา พล.อ.ประยุทธ์ ไปสมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ และไม่ได้นำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไปดำเนินการตามขั้นตอนของพรรคแต่อย่างใด แต่ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร นั้น ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ได้สมัครสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีเรื่องการครอบงำพรรค โดยให้จับตาว่าจะไปนั่งตำแหน่งสำคัญใดในพรรค เพราะมีกระแสว่าจะนั่งในตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
แต่ไม่ทันจะได้ทำงานใน ครม.ชุดใหม่ได้ครบ 1 สัปดาห์ ก็มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประวิตร นั่ง ฮ.หลวง ไปงานสัมมนาพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ พล.อ.ประวิตร ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้นั่ง ฮ. แต่นั่งรถไป-กลับรวม 6 ชั่วโมง ออกจาก กทม.ตั้งแต่ตี 5 ส่วนกรณีรีสอร์ตที่พรรคไปใช้จัดงานรุกป่านั้น พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ตอบเรื่องนี้
เป็นสิ่งสะท้อนว่า พล.อ.ประวิตรยังคงตกเป็นเป้าทางการเมืองต่อไป แม้จะมีเป้านิ่งคนอื่นๆเพิ่มขึ้น เพื่อมาเฉลี่ยกันไปก็ตาม ส่วนจะต้องระวังตัวมากขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวเชิงตัดพ้อว่า “ทำไงได้”
หากย้อนไทม์ไลน์ไป 1 ปี ช่วง ก.ค. 2561 พล.อ.ประวิตร ก็ตกเป็นกระแสอยู่เบื้องหลังการฟอร์มทีมสร้างพรรคพลังประชารัฐ ตั้งมีข่าวว่าบิ๊กทหาร ทภ.2 ไปร่วมเป็น ‘พลังดูด’ นำ อดีต ส.ส.อีสาน มาร่วมพรรค ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ตอบเพียงว่า “เขาไปดูดอย่างไร เขาดูดอย่างไร เขารู้จักกัน คุยกันไม่ได้หรือ”
แต่สื่อถามย้ำว่าหากมีการเสนอผลประโยชน์แลกเปลี่ยน จะมีความผิดหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า "เขาเสนออะไร ใครเสนอบอกชื่อมา โอ๊ย ไม่มีไปเสนออะไร ถ้าเสนอเป็นเรื่องของเขา เขารู้จักกัน เขาคุยกัน ไม่เกี่ยวกับผม"
มาพร้อมกระแสข่าวในหมู่นักการเมืองในเวลานั้น ว่า พล.อ.ประวิตร เปิดบ้านที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ใน ร.1 รอ. ให้อดีต ส.ส. มาพบ โดยพล.อ.ประวิตร ตอบว่า "บ้านผมไม่มี"
ผ่านมา 5 เดือน ช่วง ธ.ค.61 มีเสียงจากหนึ่งในแกนนำพรรคพลังประชารัฐออกมาเปิดเผยว่า อดีตบิ๊กทหาร ทภ.2 ที่ระบุว่าเป็น ‘เด็กบิ๊กป้อม’ เข้ามายุ่มย่ามในพรรคมากจนเกินไป ทำให้ พล.อ.ประวิตร จี้ถามสื่อกลับว่าเป็นใครให้บอกชื่อมา
“ไม่จริง ใคร คนไหน ชื่ออะไร แต่เราสนิทกับทุกคนในกองทัพ คนอ้างชื่อ ไอ้โจ๊ก (พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล) ก็ถูกอ้าง ก็ไปจับมาแถลงข่าวแล้ว ก็เขาอ้างจะทำยังไงได้ จะไปเชื่อทำไม” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ตามมาด้วยกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร สายตรงไปถึง ‘เสี่ยต่อ’นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ขณะนั้นเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้มาร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกฯ โดยแลกกับเก้าอี้ รมต.กระทรวงเกรดเอ
แน่นอนว่า พล.อ.ประวิตร ก็ปฏิเสธตามสูตรว่า ไม่ได้เกี่ยวกับการประสานตั้งรัฐบาล ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แม้เวลาผ่านมาความจริงต่างๆก็ปรากฏขึ้นมา
“ไม่จริง และไม่ได้เจอกับนายเฉลิมชัยเลย ไม่ได้พูดอะไรกันเลย” พล.อ.ประวิตร กล่าว 4 ธ.ค. 2561
“เขาจะดิสเครดิตผมหรือไม่ ยืนยันผมไม่ได้พูด และไม่ได้เจอหน้านายเฉลิมชัยเลย ที่ผ่านมาผมเคยเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ 3 ปี ก็รู้จักกัน นายเฉลิมชัยตนก็รู้จัก แต่วันนี้ไม่มีเบอร์โทรกันแล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว 4ธ.ค.61
เรื่อยมาถึงช่วงหลังการเลือกตั้งที่ พล.อ.ประวิตร ก็แทงกั๊กถึงอนาคตทางการเมือง โดยโยนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ชี้แจง จนมาถึงการมีกระแสข่าวว่าจะเหลือเพียง 1 เก้าอี้ คือเป็น รองนายกฯ หลุดเก้าอี้ รมว.กลาโหม และให้ พล.อ.ประยุทธ์ ควบเอง ช่วงโค้งสุดท้ายในการทำโผ ครม.ประยุทธ์2/1 ด้วยปัญหาด้านสุขภาพ และมีข่าวถึงขั้น พล.อ.ประวิตร หลุดจาก ครม.ชุดใหม่ไปเลย
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ได้คายคำตอบให้สื่อช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนมีคำสั่งอย่างเป็นทางการออกมา ถึงปัญหาสุขภาพ พร้อมวาทะ “เห้ย พอแล้ว” หลังสื่อแซวให้เป็น รมว.กลาโหม ไปอีก 2 ปี จะได้ครบ 10 ปี
โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ตนเป็น รมว.กลาโหมมา 8 ปีแล้ว รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 5 ปี รัฐบาลอภิสิทธิ์ 3 ปี
ทั้งนี้เป็นที่พูดกันหนาหูว่าหลังจากจบการเลือกตั้งไม่ทันควัน ก็มีการไปฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ใน ร.1 รอ. ที่เป็นสถานที่ทำงานของ พล.อ.ประวิตร ที่มีบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ข้างๆ และห้วง 3 เดือนที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวว่ามีการนัดพูดคุยที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯหลายครั้งในการจัดตั้งรัฐบาล แม้สุดท้ายอำนาจเด็ดขาดจะอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตาม จนเป็นที่วิจารณ์ว่า เป็นการ ‘ตั้งรัฐบาลในค่าย’ อีกครั้ง
แม้ พล.อ.ประวิตร จะโลว์โปร์ไฟล์ตัวเองลงไปมากในการจัดงานวันเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ลดขนาดงานลงไป ไม่มีการเรียงแถวอวยพรเช่นในอดีต มีเพียงการให้ ผบ.เหล่าทัพ มาอวยพรในห้องรับรอง เปิดให้นายทหาร-ตร. และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงความมั่นคงมาอวยพร
แม้ พล.อ.ประวิตร จะไม่ได้เป็น รมว.กลาโหม เหลือแค่รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่จะนั่ง ประธาน ก.ตร. เช่นเดิม แต่ก็มีความเชื่อกันว่าจะปรับบทบาทไปอยู่เบื้องหลังแทน หรือที่เรียกว่า ‘รมว.กลาโหมเงา’
ดังนั้นงานวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร 11ส.ค.นี้ ก็ยังคงมีนายทหาร-ตร. มาอวยพรเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยบรรดานักการเมือง
ที่จะเป็นภาพสะท้อน ‘บารมี’ ของ พล.อ.ประวิตร ในมิติใหม่ที่เคลื่อนจากกองทัพมาสู่สนามการเมือง เป็น ‘ป๋าคนใหม่’ ของบรรดา ‘นักเลือกตั้ง’ และ ‘ส.ว.’ ที่ผ่านมือและสายตา พล.อ.ประวิตร ในฐานะ ประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. มาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง