ไม่พบผลการค้นหา
รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชวนคนรุ่นใหม่ชี้ชะตาอนาคตประเทศ สร้างศักยภาพแรงงานด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างเศรษฐกิจด้วยธุรกิจขนาดเล็กที่คล่องตัว กระจายตัว ไม่ทำให้ประเทศไทย 4.0 มีแต่ในกระดาษ ฟาก ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เมินฉากละคร เทียบเชิญ 'ประยุทธ์' นั่งแคนดิเดตนายกฯ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะเยาวชนคนรุ่นใหม่ในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ได้สะท้อนปัญหาสำคัญที่กีดกั้นศักยภาพของคนรุ่นใหม่หลายอย่างในช่วง 4-5 ปีผ่านมา โดยพวกเขาเห็นว่าข้อจำกัดที่สำคัญคือยุทธศาสตร์ชาติเป็นกรอบจำกัดทางความคิดที่คนรุ่นใหม่ต้องเดินตาม ต้องคิดตามในอีก 20 ปีข้างหน้า 

วิธีคิดที่ล้าหลังเหล่านี้แตกต่างจากแนวคิดของพรรคเพื่อไทยอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเยาวชนและคนรุ่นใหม่ในแนวทางของพรรคเพื่อไทยต้องได้รับโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพอย่างอิสระเสรี เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนของเศรษฐกิจโลก ยุทธศาสตร์ชาติต้องไม่ใช่อุปสรรคและกรอบจำกัดทางการคิดและการพัฒนาของประเทศ ศักยภาพต้องถูกสนับสนุน ไม่ใช่ถูกจำกัดในเรื่องความคิดต่าง 

พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ เดินหน้าสนับสนุนแนวคิดสร้างสรรค์รองรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พรรคได้ศึกษาพฤติกรรมคนรุ่นใหม่และความพร้อมของประเทศอย่างละเอียด พบว่าประเทศไทยในปัจจุบันยังขาดพื้นฐานสำคัญในการรองรับคนรุ่นใหม่หลายอย่าง และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องลงทุนอย่างจริงจังเพื่อสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่แข่งขันได้ ต้องรีบดึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีลงสู่มือคนรุ่นใหม่ก่อนจะไม่ทันประเทศอื่น เทคโนโลยีจะต้องไม่ถูกผูกขาดโดยกลุ่มทุน ภาครัฐต้องสร้างทางลัดนำสู่ความสำเร็จให้เยาวชน

การลงทุนเพื่อสร้างกำลังแรงงานที่มีทักษะทางเทคโนโลยีและทักษะความเป็นผู้ประกอบการเป็นสิ่งเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าสร้าง Freelance Economy ที่เปี่ยมด้วยภาคเอกชนขนาดเล็กๆ ที่ขยายตัวสูง คล่องตัวสูง เป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ลดข้อจำกัดการทำงานรูปแบบเก่าๆ สร้างสังคมที่ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ที่ไม่จำเป็นสำหรับคนรุ่นใหม่ และสร้าง Distributed economy เป็นแรงผลักดันในการพัฒนานวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดย SMEs

สำหรับการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ กองทุนส่วนใหญ่ยังเป็น Corporate VC (กองทุนร่วมทุนของบริษัทขนาดใหญ่) ซึ่งเน้นแต่เทคโนโลยีที่ต่อยอดเฉพาะธุรกิจเฉพาะของตน ทุนจึงยังไม่รองรับความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น ตรงนี้ต้องแก้ไขใหม่ สตาร์ทอัพต้องได้รับการสนับสนุนให้เกิดพัฒนาระดับ Deep Tech ให้มากขึ้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้องใช้ Automation (แขนกล) และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มากกว่าฟีเจอร์แบบพื้นฐาน พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะสูงต่อระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นโดยการให้งบประมาณและสิทธิพิเศษทางภาษี 

ประเทศไทยจะต้องไม่เป็น 4.0 แต่ในกระดาษอีกต่อไป วิธีคิดที่ล้าหลังจะต้องถูกเปลี่ยนแปลงโดย "พลังของคนรุ่นใหม่" ที่มีความคิดเป็นของตนเอง และกล้าเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการ "ชี้เป็นชี้ตาย" อนาคตของประเทศ ผู้บริหารที่ศักยภาพสูงสามารถนำไปสู่การเป็นประเทศผู้นำ ในขณะที่ผู้บริหารที่ "ไม่ทันต่อโลก" จะนำไปสู่ "ความพ้ายแพ้" ของประเทศไทยบนเวทีโลก ร่วมกันแสดงพลังคนรุ่นใหม่ในวันที่ 24 มี.ค.

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อไทย แนะมองข้ามละครการเมือง พปชร. เทียบเชิญ 'ประยุทธ์' นั่งนายกฯ

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐเทียบเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและมาเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาตั้งแต่ก่อนทำรัฐประหารแล้ว ใครเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงผู้คนคงรู้กันหมดแล้ว ให้นึกถึงคำพูดของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่บอกว่า เขาวางแผนอยู่ยาว ฉะนั้นการเทียบเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นเพียงลีลาหนึ่งในละครการเมืองที่เขาเล่นให้ประชาชนดู ก็ดูๆ ไป

อย่างไรก็ดี มีประเด็นสำคัญที่ควรสนใจคือ 1) เมื่อพล.อ.ประยุทธ์รับเชิญแล้ว ผลการเลือกตั้งออกมาพรรคพลังประชารัฐจะแพ้หลุดไปอยู่อันดับ 2,3 หรือ4 เขาจะยอมรับผลการเลือกตั้งและเคารพเสียงประชาชนหรือไม่ หรือเขาจะดึงดันเอาเสียงวุฒิสมาชิก (สว.) 250คน มากลบเสียงประชาชน    

2) สว.250คน ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง และจากคสช. จะสนใจเสียงประชาชนหรือไม่ หรือจะดึงดันหลับหูหลับตาดันพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป

3) ถ้าทั้งพล.อ.ประยุทธ์และ สว.ไม่เคารพเสียงประชาชนที่สะท้อนผ่านการเลือกตั้งดันตัวเองขึ้นเป็นนายกฯ เราก็จะได้เห็นธาตุแท้และระดับจิตสำนึกของเขาและน่าสนใจต่อว่า เขาจะบริหารบ้านเมืองไปแบบไหน เขาคิดวางแผนอะไรซ้อนไว้

"ผมอยากให้ทุกคนมองข้ามละครเมื่อวานนี้ไป" นายสุทิน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :